LINE SHOPPING เผยเคล็ดลับวิธีขายของบน IG แบบปังๆ ยอดขายพุ่ง ลูกค้าเลิฟ
IG หรือ Instargram เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่หลายคนมีติดเครื่อง เพื่อเอาไว้อวดรูปสวยๆ ติดตามคอนเทนต์จากศิลปินที่ชอบ ค่อยส่องดูว่าเพื่อนๆ มีอัปเดตอะไร หรือแม้แต่เอาไว้ช้อปปิ้งแบบเพลินๆ โดยถือเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมของวัยรุ่นเลยก็ว่าได้ ทำให้มีแบรนด์ชั้นนำหลากหลายหันมาเปิดบัญชี Official Account เพื่อขายของออนไลน์หรือลงรูปสินค้าใหม่ๆ อีกทั้งยังมีหลากหลายกลุ่มที่เริ่มทำธุรกิจบน IG เพิ่มขึ้น ซึ่ง LINE SHOPPING ขอมาเผยเคล็ดลับขายของบน IG อย่างไรให้ปัง เพิ่มยอดขายให้พุ่งลูกค้าต้องกดหัวใจให้กันครับ
รู้ก่อน IG เหมาะกับการขายของแบบไหน?
อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่า กลุ่มผู้ใช้งานแต่ละแพลตฟอร์มจะเป็นกลุ่มที่มีความจำเพาะแตกต่างกัน ทำให้แพลตฟอร์มโซเชียลแต่ละชนิดเหมาะกับกลุ่มผู้ใช้ที่ไม่เหมือนกันด้วย ซึ่งการขายของใน IG นั่นเหมาะทั้งกับกลุ่มที่เน้นขายออนไลน์เป็นหลักและการประชาสัมพันธ์ให้ไปยังหน้าร้าน เช่น ธุรกิจแฟชั่นอย่างเสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ สินค้าแบรนด์เนมที่มีหน้าร้านหรือไม่มีหน้าร้าน ธุรกิจทัวร์และท่องเที่ยว ธุรกิจอาหาร เครื่องดื่มหรือคาเฟ่ สินค้าขายปลีกต่างๆ อย่างหรือแม้กระทั่งธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ เฟอร์นิเจอร์ งานศิลปะ กล่าวได้ง่ายๆ ว่ากลุ่มธุรกิจที่เน้นเกี่ยวกับรูปภาพ กราฟิก หรือภาพเคลื่อนไหวเป็นหลักนั่นเอง
แล้วจะเริ่มขายของบน IG อย่างไรดี?
สำหรับใครที่อยากจะเริ่มการขายของบน IG นั้นก็สามารถทำได้ไม่ยาก เพราะปัจจุบันนี้ ทาง IG เองก็มีฟีเจอร์ที่ออกมารองรับการขายของบน IG โดยเฉพาะ ซึ่งวิธีการขายของบน IG นั่น เริ่มต้นจากการสมัครบัญชีธุรกิจ (Business) เพราะจะมีฟีเจอร์ที่สามารถใส่ข้อมูล Contact Info การโปรโมทไอจี รวมถึงยังสามารถดึงรีพอร์ตออกมาวิเคราะห์ได้อีกด้วย รวมถึงร้านไหนที่เคยเปิดไอจีแบบส่วนตัว สามารถสลับไปเป็นบัญชีธุรกิจได้ง่ายๆ เพียงเข้าไปที่การตั้งค่า (Setting) เลือกบัญชี (Account) และกด Switch to Professional Account เลยก็ได้
เคล็ดลับวิธีขายของบน IG ให้ปัง เพิ่มยอดขายให้ไหลมาเทมา
1. ชื่อร้านต้องปังจริงนะ
สำหรับใครที่เปิดร้านขายของบนนี้ ชื่อบัญชีจะสามารถใช้ได้เพียงภาษาอังกฤษ ตัวเล็ก และสัญลักษณ์เท่านั้น ดังนั้นควรเลือกใช้ชื่อที่จำง่าย สะกดแบบตรงตัวเพื่อป้องกันความสับสน รวมถึงอาจใส่ชื่อสินค้าหลักๆ ที่เราขาย เช่น ร้านขายสินค้าแบรนด์เนมหลายๆ ร้านก็อาจจะมีการใส่คีย์เวิร์ดว่า “Brandname” ต่อท้ายชื่อด้วย เพื่อที่เวลาคนค้นหาก็จะเจอร้านค้าของเราได้
2. ห้ามมองข้ามยอดฟอล
ยอดฟอลถือเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับการตัดสินใจซื้อของบน IG ก็ว่าได้ ซึ่งถ้าจะพูดถึงวิธีขายของบน IG แต่ไม่พูดถึงยอดฟอลก็คงจะผิด เพราะยิ่งร้านค้าไหนมียอดฟอลเยอะ ก็จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถืออย่างมาก แต่ทาง LINE SHOPPING ไม่แนะนำให้ไปซื้อยอดฟอลหรือบัญชีที่มีคนฟอลเยอะๆ เพราะในอนาคตอาจส่งผลให้บัญชีมีปัญหาได้นะครับ แต่อาจจะเน้นเป็นการสร้างกิจกรรมที่ดึงดูดในคนเข้ามาฟอลหรือการลงคอนเทนต์ที่น่าสนใจแทน
3. แฮชแท็กต้องมี
เพราะแฮชแท็กถือเป็นอีกวิธีการที่คนอื่นจะหาร้านค้าเจอ ดังนั้นการใส่แฮชแท็กสินค้าที่ขายในโพสต์จะช่วยให้ลูกค้าเจอร้านและตัดสินใจซื้อสินค้าได้ อย่างไรก็ดี บางร้านอาจจะมีการใส่แฮชแท็กสินค้าใกล้เคียงหรือยี่ห้อใกล้เคียง เพื่อเพิ่มโอกาสในการมองเห็นได้ แต่ทางที่ดีควรใส่แฮชแท็กไม่เกิน 10 อันนะครับ
4. ใส่รายละเอียดต้องครบ
ไม่ว่าจะเป็นบนหน้าโปรไฟล์หรือในโพสต์สินค้า ควรใส่รายละเอียดให้ครบถ้วนว่าสินค้านี้คืออะไร มีสีอะไร ราคาเท่าไร วิธีการสั่งซื้อแบบไหน หากร้านค้าไหนที่เน้นให้ลูกค้าแอดไลน์ไป อาจทำลิงก์ใส่ไว้หน้าโปรไฟล์ให้ลูกค้ากดแอดไปสั่งได้
5. รูปภาพหรือคลิปต้องคุณภาพสูง
มาถึงอีกข้อสำคัญที่จะเพิ่มยอดขายให้ปัง คือการลงรูปและคลิปที่จะต้องมีคุณภาพสูง อาจมีการคุมโทนไอจีให้สวยงาม จัดองค์ประกอบเวลาถ่ายรูปให้ดีขึ้น ลงไฟล์คุณภาพสูงก็จะสามารถดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาซื้อสินค้าของเราได้
จาก 5 วิธีขายของบน IG แล้ว ร้านไหนอยากจะหาแพลตฟอร์มขายของสุดฟังต้องห้ามพลาด LINE SHOPPING ซึ่งเป็นหนึ่งในโซเชียลคอมเมิร์ซที่มาแรงและมาพร้อมกับตัวช่วยจัดการร้านค้าออนไลน์ชื่อว่า MyShop ครบครันไปด้วยฟีเจอร์และฟังก์ชัน อาทิ ระบบนับสต็อกสินค้าแบบ Real Time, ระบบ Flex Message รับออเดอร์อัตโนมัติ, ผู้ขายสามารถ สร้างเว็บขายของออนไลน์ฟรี มี Storefront เป็นของตัวเอง ทั้งยังนำเว็บขายของฟรีนี้ไปแชร์ยังโซเชียลมีเดียต่างๆ เพิ่มช่องทางในการขายขึ้นไปอีก นอกจากนี้ยังรองรับการชำระเงินได้หลายช่องทาง ไม่ว่าจะโอนเงิน จ่ายผ่านบัตรเครดิต เก็บเงินปลายทาง หรือจ่ายผ่าน Rabbit LINE Pay โดยไม่ต้องสลับแอปฯ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าออนไลน์แบบไหนก็เริ่มทำธุรกิจและเพิ่มยอดขายบนแพลตฟอร์ม LINE SHOPPING ได้ง่ายๆ
เพียงมี LINE OA สามารถเปิดบัญชี MyShop ได้ฟรี ที่ lineshoppingseller.com
