- จัดการปัญหาการส่งสินค้าช่วงน้ำท่วมอย่างไรดี เพื่อส่งของถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัย
จัดการปัญหาการส่งสินค้าช่วงน้ำท่วมอย่างไรดี เพื่อส่งของถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัย
ไม่มีพ่อค้าแม่ขายหรือเริ่มทำธุรกิจค้าขายท่านใดที่อยากจะส่งของถึงมือลูกค้าล่าช้าหรือส่งสินค้าเสียหายให้กับลูกค้า ทว่าในบางครั้งก็เกิดสถานการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ อย่าง “น้ำท่วม” ซึ่งทำให้การส่งของเป็นได้อย่างล่าช้าหรือสินค้าอาจเกิดความเสียหายได้ ดังนั้นในวันนี้ LINE SHOPPING จึงขอมาแนะนำพ่อค้าแม่ขายทุกท่านว่าจะจัดการปัญหาการส่งสินค้าช่วงน้ำท่วมอย่างไรดี? จะมีวิธีการอย่างไรบ้างมาทราบพร้อมกันเลยครับ
1. เช็กพื้นที่น้ำท่วมและติดตามข่าวเสมอ
เริ่มต้นจากการเช็กพื้นที่น้ำท่วมก่อนว่ามีอำเภอหรือจังหวัดใดที่ได้รับผลกระทบบ้าง และเริ่มตรวจสอบกับทางบริษัทขนส่งสินค้าว่ามีการเปิดให้ส่งของในพื้นที่ใดบ้าง ซึ่งจะได้ตัดสินใจได้ถูกต้องว่าจะสามารถส่งของไปให้ลูกค้าได้หรือไม่ นอกจากนี้การติดตามข่าวเสมอจะช่วยให้พ่อค้าแม่ขายสามารถประเมินว่าสามารถส่งสินค้าได้หรือไม่ ป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นเมื่อสินค้าส่งถึงมือได้นั่นเอง โดยสามารถเช็กพื้นที่น้ำท่วมได้ผ่านทาง https://flood.gistda.or.th/
2. แจ้งลูกค้าให้ทราบทั่วกัน
สำหรับพ่อค้าแม่ค้าท่านใดที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วมและไม่สามารถที่จะออกไปส่งของได้ อาจแจ้งให้ลูกค้าทุกท่านทราบถึงสถานการณ์ที่ประสบอยู่ โดยแจ้งรายละเอียดว่าสินค้าที่สั่งซื้อได้รับความเสียหายหรือไม่และคาดการณ์ว่าจะไปจัดส่งสินค้าได้เมื่อใด การแจ้งความคืบหน้าให้ลูกค้าทราบนั่นจะช่วยให้ลูกค้ามั่นใจว่าไม่ได้โดนโกง ป้องกันการแจ้งความเบื้องต้นได้ ซึ่งทาง LINE SHOPPING แนะนำให้ทุกท่านแจ้งลูกค้าเป็นแบบรายบุคคลผ่านช่องทาง Broadcast ของ LINE OA เพื่อที่จะได้มั่นใจว่าลูกค้าได้รับข้อมูลในส่วนนี้ ในกรณีที่มีลูกค้าอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมที่ไม่สามารถส่งของได้ แนะนำให้แจ้งลูกค้าเหล่านั้นว่าการขนส่งอาจล่าช้าและป้องกันความเสียหาย หรืออาจจะตั้งค่า Step Message เพื่อส่งข้อความไปหากลูกค้าในพื้นที่เหล่านั้น เช่นกันหากสินค้าที่ส่งไปเป็นอาหาร ขนม สิ่งของที่เปียกแล้วเกิดเชื้อราหรือชำรุดได้อย่างเสื้อผ้าหรือหมอน อาจเกิดความเสียหายได้ในขณะที่น้ำท่วม ก็อาจจะงดการส่งสินค้าเหล่านี้ชั่วคราวก่อนจะดีกว่า
3. แพ็กของให้แน่นหนาขึ้นและซื้อประกันหากเป็นของจำเป็น
สำหรับการส่งสินค้าช่วงน้ำท่วม ใครที่จำเป็นจะต้องส่งของ ทาง LINE SHOPPING ขอแนะนำให้แพ็กของแน่นหนาขึ้นกว่าเดิม โดยอาจจะมีการซีลพลาสติกรอบๆ กล่องเพื่อป้องกันน้ำเข้ามาทำกล่องชำรุด ภายในกล่องอาจใส่ตัวดูดความชื้นเพิ่มเพื่อป้องกันความชื้นภายใน กรณีที่เป็นร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์อาจห่อหุ้มพลาสติกหรือบับเบิลกับสินค้าเพิ่มเติม การแพ็กสินค้าให้แน่นหน้ามากขึ้นนั้นจะช่วยป้องกันความเสียหายในเบื้องต้นได้ เพราะอย่าลืมว่าถึงแม้จะส่งไปยังพื้นที่ปกติ แต่ก็อาจเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นได้ ส่วนใครที่กังวลใจ อาจมีตัวเลือกจัดส่งแบบมีประกัน เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงนี้
4. แจ้งเลขแทร็กให้ลูกค้าทุกครั้ง
ถึงจะเป็นสิ่งที่พ่อค้าแม่ขายหลายท่านทำอยู่แล้ว แต่เพื่อป้องกันการตกหล่นหรือสินค้ามีปัญหา ควรที่จะแจ้งเลขแทร็กให้ลูกค้าได้ติดตามสถานะการจัดส่งสินค้า โดยเฉพาะการส่งสินค้าช่วงน้ำท่วมอย่างนี้ ไม่ควรลืมที่จะอัปเดตสเตตัสให้ลูกค้าทราบเสมอ สามารถอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดส่งได้ที่นี่
5. ให้กำลังแก่ลูกค้า
ในช่วงเวลานี้ใครๆ ก็ล้วนแต่ต้องการกำลังใจและความช่วยเหลือ หากพ่อค้าแม่ขายท่านใดมีทุนทรัพย์ น้ำใจ หรือสิ่งของต่างๆ ที่สามารถช่วยเหลือแก่กันได้ การมอบของเหล่านั้นเพื่อเป็นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ให้แก่ลูกค้าหรือผู้ประสบภัยก็สามารถทำได้ บางท่านอาจจะบริจาคให้กับหน่วยงานต่างๆ หรืออาจจะส่งสินค้าเหล่านั้นไปให้กับลูกค้าเพื่อช่วยกันก็ได้ หากใครสะดวกก็อาจจะทำเป็นกิจกรรมภายในร้านร่วมกับลูกค้าเพื่อที่จะช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมก็ได้เช่นกันครับ
จากทั้ง 5 วิธีการส่งสินค้าช่วงน้ำท่วมคงทำให้พ่อค้าแม่ขายหลายท่านทราบแล้วว่าจะต้องจัดการและตัดสินใจอย่างไรเพื่อที่จะส่งสินค้าถึงมือลูกค้าอย่างสมบูรณ์ และเพื่อให้การขายของออนไลน์และพูดคุยกับลูกค้าในช่วงนี้เป็นไปได้อย่างดี อาจต้องใช้ตัวช่วยจาก LINE SHOPPING ซึ่งสามารถออกออเดอร์อัตโนมัติ ติดตามสถานะออเดอร์เหล่านั้น แจ้งอัปเดตสถานะสินค้าได้อย่างง่าย รองรับการชำระเงินหลากหลายช่องทางไม่ว่าจะเป็นโอนเงิน บัตรเครดิต Rabbit LINE Pay หรือรับชำระเงินปลายทาง การนับสต็อกได้แบบเรียลไทม์ รวมถึงยังเปิดใช้งาน Storefront หรือเว็บขายของออนไลน์ของร้าน ที่สามารถนำลิงก์ไปแชร์ตามโซเชียลต่างๆ ได้อย่างสะดวก