สวัสดีพ่อค้าแม่ขายทุกท่าน สำหรับช่วงนี้พ่อค้าแม่ขายที่ขายเสื้อผ้าออนไลน์ก็คงกำลังอยากทราบว่าแนวโน้มตลาดแฟชั่นวันนี้เป็นอย่างไรบ้าง ในช่วงสถานการณ์เช่นนี้วงการแฟชั่นเขาปรับตัวอย่างไร และเทรนด์ไหนที่มาแรงบ้าง ในบทความนี้ MyShop ได้รวบรวมมาให้หมดแล้ว จะมีแนวโน้มตลาดเป็นอย่างไรบ้าง มาทราบกันเลยครับ
1. ฟาสแฟชั่นต้องหลบไปก่อน
ฟาสแฟชั่นหรือแฟชั่นแบบมาเร็วเคลมเร็วนั้นมีแนวโน้มที่จะถูกบอยคอตมากขึ้น เพราะนอกจากประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมที่ตลาดฟาสแฟชั่นทิ้งไว้แล้วนั้น ยังมีความไม่เป็นธรรมทางด้านค่าแรงของพนักงานจากแบรนด์ดังๆ ที่กลายมาเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอย่างรุนแรง จึงทำกลุ่มนักรณรงค์ทั้งหลายออกมาขับเคลื่อนเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้และเริ่มบอยคอตกันมากขึ้นทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ที่ในปัจจุบันนี้เหล่าผู้บริโภคเจน Z หรือมิลเลนเนียนในไทยก็เริ่มออกมาเคลื่อนไหวมากขึ้น ทั้งการบอยคอตสินค้าเหล่านี้และทำชุดสื่อความรู้ที่ทำให้ผู้อื่นตระหนักถึงการบริโภคฟาสแฟชั่นนั่นเอง ซึ่งผลจากการหลีกเลี่ยงฟาสแฟชั่นทำให้หลายคนหันไปสนใจสินค้าประเภทที่รักษ์โลก ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม มีความยั่งยืนมากขึ้น หรือสินค้ามือสองก็เป็นผลพลอยได้ของการหลีกเลี่ยงฟาสแฟชั่นและนำเสื้อผ้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเช่นกัน
2. Localization: ปรับเข้าสู่ท้องถิ่น
การ Localization หรือการปรับตัวเข้ากับท้องถิ่นกลายมาเป็นแนวโน้มตลาดแฟชั่นที่สำคัญมากขึ้น หลายแบรนด์เริ่มมีการปรับดีไซน์ต่างๆ ให้มีความเป็นท้องถิ่นมากขึ้น ในตลาดแฟชั่นเริ่มมีการให้ความสำคัญกับศิลปะท้องถิ่น มีการหยิบเอา element ต่างๆ ที่เป็นส่วนประกอบหนึ่งในท้องถิ่นนำออกมาใช้ ยกตัวอย่าง การนำลวดลายซากุระของญี่ปุ่นมาทำเป็นลายกระเป๋า หรือช่วงหนึ่งที่นำเสื้อทรงยูคาตะมาเป็นเสื้อคลุมแฟชั่น อย่างไรก็ดี แฟชั่นแบบปรับตัวเข้าหาท้องถิ่นนั้นก็อาจมีความคาบเกี่ยวกับประเด็นอ่อนไหวอย่าง Cultural Appropriation หรือการฉกฉวยทางวัฒนธรรมได้เช่นกัน หากหยิบนำมาใช้โดยปราศจากความเข้าใจถึงวัฒนธรรมหรือความเจ็บปวดของคนชายขอบ
3. Unisex: ไร้พรมแดนเรื่องเพศ
จากที่ MyShop เคยได้กล่าวไปในบทความก่อนหน้านี้ ว่าผู้บริโภคยุคปัจจุบันเริ่มหันมามี Awareness ในด้านต่างๆ รวมถึงมีความเข้าใจในเรื่องเพศที่มากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นในวงการแฟชั่นขณะนี้ แฟชั่นถือว่าเป็นเรื่องที่ unisex คือ ไม่ว่าเพศไหนๆ ก็สามารถเลือกสวมใส่เสื้อผ้าได้ทุกประเภท ไม่ใช่เพียงแค่ผู้หญิงเท่านั้นที่ใส่กระโปรงได้ เพศชาย Transgender Pansexual หรือ Non-Binary ฯลฯ ก็สามารถใส่กระโปรงได้เช่นกัน ซึ่งแนวโน้มตลาดแฟชั่นในปัจจุบันของไทยก็เริ่มตระหนักถึงความสำคัญและตัวตนของ LGBTQ+ มากขึ้นกว่าเดิม และชุมชน LGBTQ+ ก็เริ่มแข็งแกร่งมากขึ้นจากเดิมด้วย
4. Collab
เชื่อว่าการ Collab ระหว่างแบรนด์ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่หลายคนจับตามอง และถือเป็นแนวโน้มตลาดแฟชั่นของวันนี้ เพราะว่าแบรนด์ดังๆ หลายแห่งเริ่มคอลแลบกันมากขึ้น เราเคยได้เห็นการคอลแลบระหว่างแบรนด์ LV แบรนด์ไฮเอนด์ระดับตำนานกับ Supreme แบรนด์สตรีทชื่อดัง ซึ่งแน่นอนว่าเมื่องานเปิดตัวมาถึง สินค้าก็ถูกขายออกไปจนหมดทันที แถมยังทำให้เกิดปรากฎการณ์การ Resale ในราคาที่สูงมาก นอกไปจากนี้ ไม่เพียงแต่การคอลแลบระหว่างแบรนด์ที่เป็นที่น่าจับตามองเท่านั้น ยังมีการคอลแลบระหว่างแบรนด์เสื้อผ้ากับนักร้องที่ได้รับการยอมรับไม่แพ้กันอีกด้วย
5. Digital Fashion
ในยุคนี้ Virtual กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันมากขึ้น ดังนั้น Virtual Digital Fashion จึงกลายมาเป็น New Normal ของเรา อย่างแบรนด์ The Fabricant ที่นำเทคโนโลยี CG เข้ามาสร้างไอเท็มเสื้อผ้า กล่าวคือคนซื้อจะไม่ได้รับเสื้อผ้าจริงๆ แต่เป็นเพียงรูปการตัดต่อเสื้อสุดแสนจะ Avant-garde นั่นเอง ซึ่งแนวคิดเสื้อผ้าหลุดโลกแห่งความเป็นจริงเพื่อโลกเสมือนนี้ก็มาจากแนวคิดเดียวกับการเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านฟาสแฟชั่น นั่นคือการสร้างเสื้อผ้าด้วยเทคนิค CG เพื่อให้ได้รูปถ่ายเพียงอย่างเดียวแล้วก็ทิ้งไป ไม่ทำให้โลกร้อนขึ้นด้วย
จากทั้ง 5 แนวโน้มตลาดแฟชั่นในวันนี้นั้นก็จะเห็นได้ว่าการบริโภคแฟชั่นของคนไทยเริ่มมีการรับรู้ (Awareness) มากขึ้น ดังนั้นใครที่กำลังจะเริ่มทำธุรกิจเสื้อผ้า กระแสแฟชั่นที่อินไปกับเทรนด์ที่กล่าวมาก็น่าสนใจในปัจจุบันนี้
สุดท้ายนี้ หากใครที่กำลังมองหาแอปขายของออนไลน์ ก็ให้ MyShop เป็นคำตอบของคุณ เพราะเป็นแอปที่เต็มไปด้วยฟีเจอร์และฟังก์ชันอำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการพูดคุยโต้ตอบกับลูกค้าอย่างไม่มีติดขัด ระบบนับสต๊อกสินค้าอย่างแม่นยำ ระบบออกออเดอร์ การติดตามสถานะการจัดส่ง สามารถรับชำระเงินได้หลายช่องทาง และยังสามารถให้พ่อค้าแม่ขายสร้างหน้าเว็บขายของออนไลน์ให้ร้านค้าของตนเองอีกด้วย สมัครง่ายแค่เพียงมี LINE OA ก็สามารถเปิดบัญชีได้เลยทันที
อ้างอิง
https://www.ellethailand.com/content/digital-fashion-trend-2021
