- AIDA สูตรลับการสร้างคอนเทนต์ให้น่าสนใจ แถมเพิ่มยอดขายได้ด้วย
AIDA สูตรลับการสร้างคอนเทนต์ให้น่าสนใจ แถมเพิ่มยอดขายได้ด้วย
AIDA เคล็ดลับการสร้างคอนเทนต์ขายของให้น่าสนใจและเพิ่มยอดขาย
ถึง “คอนเทนต์” จะเป็นเรื่องสำคัญในการทำธุรกิจ แต่การสร้างคอนเทนต์ให้น่าสนใจและตรงใจกลุ่มเป้าหมายตลอดเวลาอาจไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด เพราะนอกจากต้องติดตามกระแส รวมถึงเทรนด์การตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาแล้ว การทำคอนเทนต์ โดยเฉพาะคอนเทนต์ขายของ ยังต้องปรับเปลี่ยนวิธีคิดและทำไปตามเงื่อนไขของแต่ละแพลตฟอร์มอีกด้วย
อย่างไรก็ดี ถึงจะมีรายละเอียดมากมายเพียงใด แต่รู้หรือไม่? เจ้าของธุรกิจทุกคนยังสามารถทำคอนเทนต์ให้ปังและประสบความสำเร็จได้ด้วยเทคนิค Content Marketing ที่เรียกว่า AIDA เช่นกัน แต่จะทำอย่างไรนั้น ไปดูพร้อมกันได้เลย
AIDA คืออะไร?
สำหรับเจ้าของธุรกิจที่เคยผ่านประสบการณ์คอร์สเรียนการตลาดมาบ้าง AIDA อาจเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่คุ้นหู แต่สำหรับใครที่ยังไม่เคยผ่านวิชาการตลาดมาเลย AIDA อาจฟังดูเป็นเรื่องแปลกใหม่อยู่ไม่น้อย ดังนั้น เพื่อเป็นการทบทวนความรู้และทำความรู้จักสิ่งใหม่ไปพร้อมกัน ลองมาทำความรู้จัก AIDA กันดูสักหน่อยดีกว่า
AIDA เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่จะอธิบายให้เห็นภาพว่า กว่าที่ลูกค้าคนหนึ่งจะตัดสินใจซื้อสินค้า หรือเข้าร่วมแคมเปญนั้นจะมีกระบวนการอย่างไรบ้าง มีแผนการอย่างไรที่จะเรียกร้องให้ลูกค้าสนใจ ชอบ ไปจนถึงการนำความต้องการของลูกค้าเปลี่ยนเป็นการตัดสินใจซื้อสินค้า ด้วยเหตุนี้ ธุรกิจมากมายจึงใช้ AIDA เป็นโมเดลในการวางแผนธุรกิจ ตลอดจนออกแบบการตลาดให้สามารถดึงดูดลูกค้าจนสามารถปิดการขายได้
เกี่ยวข้องกับ Content Marketing อย่างไร?
Content Marketing คือ เทคนิคในการสร้างคอนเทนต์ให้น่าสนใจ ตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย ทำให้สามารถสร้างผลลัพธ์ทางการตลาดที่ต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง Awareness หรือแม้แต่การเพิ่มยอดขายให้แก่ธุรกิจ
ด้วยเหตุนี้ AIDA จึงเป็นโมเดลที่ไม่เพียงแต่จะใช้ศึกษาความต้องการของลูกค้าเท่านั้น แต่เจ้าของแบรนด์ รวมถึงนักการตลาดยังสามารถนำ AIDA มาปรับใช้ในการทำ Content Marketing ได้ ทั้งในเรื่องของการออกแบบคอนเทนต์เพื่อกระตุ้นความสนใจ ตลอดจนการเรียงลำดับคอนเทนต์เพื่อนำไปสู่การเพิ่มยอดขายได้นั่นเอง
AIDA ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง?
เมื่ออ่านมาถึงจุดนี้ เจ้าของธุรกิจหลายคนคงเริ่มสงสัยแล้วว่าจะสามารถนำ AIDA มาสร้างคอนเทนต์ขายของได้อย่างไรบ้าง แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้น เรามาทำความเข้าใจส่วนประกอบของ AIDA เพื่อการปรับใช้ที่เหมาะสมและถูกต้องกันก่อนดีกว่า โดย AIDA จะประกอบไปด้วย 4 ปัจจัย ดังนี้
1. Attention - A
มาเริ่มที่ A ตัวแรก หรือ Attention กันก่อน โดย Attention นี้จะเป็นขั้นตอนที่ระบุว่าธุรกิจควรทำอย่างไรเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายรู้จักแบรนด์ของเราให้ได้มากที่สุด เพราะหากยิ่งสร้าง Attention ได้มากเท่าไหร่ อย่างน้อยลูกค้าก็จะได้รู้จักแบรนด์ ซึ่งอาจพัฒนาต่อยอดไปสู่จุดอื่นได้ง่าย
การสร้าง Attention นั้นสามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการทำโฆษณา การบอกแบบปากต่อปาก ตลอดจนการทำคอนเทนต์ลงแพลตฟอร์มต่าง ๆ แต่ไม่ว่าจะเลือกรูปแบบไหน นักการตลาด รวมถึงเจ้าของธุรกิจควรกำหนดรายละเอียดของกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจนอยู่เสมอ เพราะหากไม่พิจารณาในจุดนี้ให้ดีก็อาจทำให้สร้างโฆษณา หรือทำการตลาดที่ไม่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายที่ตรงจุดจนอาจไม่สร้างยอดขาย แถมยังไม่เป็นที่รู้จักอีกด้วย
ถ้านึกภาพไม่ออกว่าจะทำ Attention อย่างไรให้มีประสิทธิภาพ ลองนึกง่าย ๆ ว่า หากธุรกิจของเราเน้นการขายสกินแคร์ราคาแพง แก้ปัญหาผิวได้อย่างล้ำลึก คอนเทนต์ขายของ ตลอดจนโฆษณาที่ทำเพื่อให้คนรู้จักก็อาจจะเป็นการนำเสนอปัญหาของคนที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของผิว เช่น อายุ 30 ปีขึ้นไป หรืออายุ 45 ปี ทั้งนี้เพื่อเจาะลูกค้าได้ตรงกลุ่ม ทั้งในเรื่องของปัญหาผิวและรายได้ที่สามารถซื้อสกินแคร์ของเราได้
2. Interest - I
เมื่อลูกค้าเริ่มรู้จักธุรกิจเพิ่มขึ้นแล้ว ในขั้นตอนต่อไป คือ การสร้างความสนใจให้แก่ธุรกิจมากขึ้น และทำให้ลูกค้าเริ่มมาพิจารณาการซื้อสินค้านั่นเอง
ในส่วนนี้ Content Marketing ก็จะเริ่มเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างคอนเทนต์ให้น่าสนใจจนสามารถดึงดูดลูกค้าได้ ตลอดจนการวางแผนการตลาดทำคอนเทนต์ออกมาหลายรูปแบบเพื่อให้ลูกค้าเห็นว่า ธุรกิจของเราโดดเด่นกว่าธุรกิจคู่แข่งอย่างไร มีจุดเด่นที่ดีกว่าตรงไหน และทำไมลูกค้าถึงควรหันมาใช้สินค้าจากแบรนด์ของเรา
โดยธุรกิจอาจให้ความสำคัญในเรื่องของการนำเสนอข้อมูลสำคัญ ตลอดจนเลือกจุดเด่นของสินค้ามากระตุ้นความสนใจและเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าได้พิจารณามากยิ่งขึ้น
3. Desire - D
เมื่อได้ความสนใจจากลูกค้าแล้ว แน่นอนว่าสิ่งต่อมาที่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง คือ การเพิ่มดีกรีความต้องการและความชอบของลูกค้าให้มากขึ้นไปเรื่อย ๆ ทั้งในด้านของแบรนด์และสินค้า ซึ่งในขั้นตอนนี้ ธุรกิจควรเริ่มสร้างคอนเทนต์ขายของเพื่อกระตุ้นความสนใจและความต้องการของลูกค้าให้สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำโปรโมชัน ส่วนลดสำหรับลูกค้าใหม่ หรือจะทำคอนเทนต์เพื่อขยี้ปัญหา หรือ Pain Point เพื่อให้ลูกค้าเชื่อมั่นว่า “สินค้าของเราสามารถตอบโจทย์ได้จริง มาซื้อเถอะ!” ก็ได้เช่นเดียวกัน
<H3>4. Action - A </H3>
บทสรุปของ AIDA กลับมาที่ตัว A เช่นเดิม แต่จะเปลี่ยนจาก Attention มาเป็น Action ซึ่งนั่นหมายความว่า ธุรกิจจะต้องปิดการขายของสินค้ากับลูกค้าได้แล้ว ซึ่งในส่วนนี้ ธุรกิจสามารถวางแผนการตลาดได้หลากหลายรูปแบบ
เช่น การสร้าง Sense of Urgency เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าซื้ออย่างการทำโปรโมชันแบบจำกัดช่วงเวลา ไปจนถึงการลดแลกแจกแถมแบบฮาร์ดเซล หรือธุรกิจอาจเลือกสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าด้วยการเล่าถึงบริการหลังการขาย ตลอดจนความคุ้มค่าในเรื่องอื่น ๆ เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกพิจารณา เปรียบเทียบรายละเอียด และปิดการขายกับสินค้าจากแบรนด์ที่ตอบโจทย์ที่สุด
ธุรกิจสามารถปรับใช้ AIDA ได้อย่างไรบ้าง?
แม้จะดูเป็นเรื่องพื้นฐานที่ใครก็เข้าใจ แต่ AIDA สามารถช่วยทำให้การสร้างคอนเทนต์ให้น่าสนใจนั้นมีระบบมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ธุรกิจวางแผนการตลาดในแต่ละช่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การโปรโมต สร้าง Awareness ไปจนถึงการปิดการขาย
ที่สำคัญ หากลองมองในภาพรวมแล้ว AIDA ยังเป็นโมเดลที่นำมาปรับใช้เป็นแผนการสร้างธุรกิจได้เช่นกัน ทำให้เจ้าของธุรกิจเห็นภาพรวมของธุรกิจในด้านต่าง ๆ พร้อมเห็นปัญหาในหลายส่วนได้ชัดเจน ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาและช่วยให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้โดยมีปัญหาน้อยที่สุด
Content Marketing ที่ดี คือ การมองหาเทคนิคการนำเสนอข้อมูลที่สามารถปรับเปลี่ยนธุรกิจไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้ ซึ่ง AIDA เองก็เป็นหนึ่งในเทคนิคที่สามารถยกระดับธุรกิจของทุกคนไปสู่ความสำเร็จได้ แต่เมื่อรู้จักการทำ Content Marketing โดยใช้ AIDA แล้ว อย่าลืมลองมาปรับทิศทางและทดลองทำคอนเทนต์ขายของที่น่าสนใจและใช้ได้จริงที่ LINE SHOPPING แพลตฟอร์มที่จะช่วยเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้สะดวกและง่ายขึ้น แถมไม่มีค่า GP และค่าธรรมเนียมให้กังวลใจ