เทคนิคเพิ่มยอดขายด้วยการสร้าง Brand Loyalty

           “การหาลูกค้าใหม่ ไม่ยากเท่าการรักษาฐานลูกค้าเดิม” ที่สำคัญการรักษาฐานลูกค้าเก่าสามารถลดค่าใช้จ่ายในการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ได้มากถึง 5-25 เท่า และทำให้ธุรกิจมีความมั่นคงและยั่งยืน ด้วยเหตุนี้ การสร้าง Brand Loyalty จึงเป็นเทคนิคเพิ่มยอดขายที่สำคัญ เพราะยิ่งเรามีฐานลูกค้าที่เป็น Brand Loyalty มากเท่าไร เราก็ยิ่งมั่นคงมากขึ้นเท่านั้น แถมยังประหยัดงบประมาณมากกว่าอีกด้วย 

         Brand Loyalty คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร 

              Brand Loyalty คือ การที่ลูกค้ามีความภักดีในการซื้อสินค้าและบริการกับแบรนด์สินค้าใดสินค้าหนึ่ง จนเกิดการซื้อซ้ำ และบอกต่อ ทำให้มีคนสนใจและซื้อตาม ซึ่งช่วยให้แบรนด์มียอดขายที่มั่นคงและเติบโตขึ้นไปเรื่อย ๆ 

           การสร้าง Brand Loyalty คือหนึ่งในเทคนิคเพิ่มยอดขายที่ธุรกิจให้ความสำคัญและใส่ใจ เพราะยิ่งเรามีฐานลูกค้าที่เป็น Brand Loyalty มากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้ธุรกิจเติบโตมากขึ้นเท่านั้น เพราะนอกจากจะไม่ได้ลงทุนด้านการตลาดมากเท่าการหาลูกค้าใหม่แล้ว ยังมีความน่าเชื่อถือในการรีวิวหรือบอกต่อ เนื่องจากเป็นลูกค้าจริงที่เสียเงินค่าบริการเอง 

            ข้อดีของการสร้าง Brand Loyalty

• ใช้งบประมาณในการโฆษณาประชาสัมพันธ์น้อยกว่า เนื่องจากลูกค้ารู้เกี่ยวกับสินค้าและบริการของเราดีอยู่แล้ว จึงไม่ต้องทุ่มงบไปกับเรื่องสร้างการรับรู้ หรือ Awareness สามารถใช้วิธีจูงใจด้วยโปรโมชันหรือกลยุทธ์การขายอื่น ๆ เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจได้เลย หรือบางครั้ง ไม่จำเป็นต้องกระตุ้นการขาย ลูกค้าก็ยินดีที่จะซื้อสินค้าและบริการอยู่แล้ว 

• เป็นเทคนิคการเพิ่มยอดขายแบบบอกต่อที่ได้ผล โดยลูกค้าที่ภักดีกับแบรนด์มักจะบอกต่อสินค้าหรือบริการจากแบรนด์ด้วยความจริงใจ จึงมีความน่าเชื่อถือ และทำให้มีผู้ใช้ตามเพิ่มขึ้นไปด้วย 
• สร้างผลกำไรให้แบรนด์ มหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ดพบว่า เพียงรักษาฐานลูกค้าเก่าได้เพิ่มขึ้น 5% กำไรของบริษัทก็จะเพิ่มขึ้นสูงถึง 25-95% เลยทีเดียว 

         ปัจจัยที่ทำให้ลูกค้าเกิด Brand Loyalty

         วิธีเพิ่มยอดขายให้ปังด้วยการสร้าง Brand Loyalty มีปัจจัยที่แบรนด์ต้องให้ความสำคัญดังต่อไปนี้ 

1. คุณภาพของสินค้าและบริการ จะต้องมีมาตรฐานที่ดีและมีความคงเส้นคงวา ถ้าเป็นอาหารและเครื่องดื่มก็ต้องอร่อย สะอาด และมีราคาที่สมเหตุสมผล นอกจากนี้ ทุกคนที่เกี่ยวข้องจะต้องมี Service mind ในการให้บริการ ห้ามคิดว่าเป็นส่วนงานที่ไม่เกี่ยวกับเราอย่างเด็ดขาด 
2. ความโปร่งใสสร้างความเชื่อใจ สินค้ารุ่นไหน มีฟังก์ชันอะไร มีตำหนิตรงไหน ควรบอกลูกค้าหมดทุกจุด เพื่อให้ลูกค้ามีข้อมูลมากพอในการตัดสินใจ 
3. บริการหลังการขาย สิ่งหนึ่งที่สำคัญในการสร้าง Brand Loyalty คือ บริการหลังการขาย ซึ่งเป็นการรักษาฐานลูกค้าและเป็นวิธีเพิ่มยอดขายให้ปังอย่างยั่งยืน เพราะมีลูกค้าจำนวนมากที่ยอมเสียเงินจำนวนมากกว่า หรือได้ของคุณภาพที่ด้อยกว่านิดหน่อย เพื่อแลกกับบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม 

        นอกจาก 3 ข้อที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ในเจนเนอเรชันที่แตกต่างกัน ก็ใช้กลยุทธ์ในการสร้าง Brand Loyalty ที่แตกต่างกันออกไป ตัวอย่างเช่น เจนฯ Z จะเน้นเรื่องประสบการณ์ที่ได้รับจากแบรนด์ เจนฯ Y ต้องสะท้อนตัวตน เจนฯ X และ Baby Boomer เน้นคุณค่าของแบรนด์ เราจึงต้องพิจารณากลุ่มลูกค้าของเราประกอบการคิดแผนทางการตลาดอย่างถี่ถ้วน

        ระดับความภักดีของลูกค้า (The Degree of Loyalty)

         เราสามารถแบ่งระดับความภักดีของลูกค้าได้เป็น 3 ระดับ ดังต่อไปนี้ 

1. ลูกค้าที่ซื้อซ้ำ หรือ Repeated Customer เป็นลูกค้าที่กลับมาซื้อสินค้าของเราซ้ำ อาจจะซื้อเป็นประจำแต่จำนวนน้อย หรือนาน ๆ ทีแต่ซื้อจำนวนมาก ๆ 
2. ซื้อซ้ำและบอกต่อ หรือ Advocate นอกจากซื้อซ้ำแล้ว ยังบอกต่อเพื่อน ๆ ไม่ว่าจะผ่านการรีวิว หรือบอกปากต่อปากก็ตาม ซึ่งจะช่วยให้เราได้ลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น เป็นเทคนิคเพิ่มยอดขายที่ดีของแบรนด์
3. ซื้อซ้ำ บอกต่อ และปกป้อง หรือ Evangelist ตัวอย่างที่เห็นชัด ๆ คือ สาวก Apple ที่จะออกตัวแทนทุกคนเมื่อมีผู้มาว่าหรือกล่าวหาแบรนด์ในทางที่ไม่ดี 

        เทคนิคการสร้าง Brand Loyalty ด้วยกลยุทธ์ 4E

         วิธีเพิ่มยอดขายให้ปัง โดยการสร้าง Brand Loyalty สามารถนำ 4 วิธีนี้ไปปรับใช้กับธุรกิจ 

1. Easy การเข้าถึงได้ง่าย ไม่ว่าต้องการติดต่อหรือสั่งสินค้า ต้องมีหลากหลายช่องทาง และมีความสะดวกสบายในการใช้งาน เช่น สามารถเลือกสินค้า กดสั่ง และจ่ายเงินภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที 
2. Engagement จัดกิจกรรมสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น Online หรือ Onsite เป็นการสร้างความผูกพัน การจดจำ โดยอาจจะจัดเป็นกิจกรรมพิเศษ ซึ่งสามารถจัดได้ทั้งแบบฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ กับแบบเสียค่าใช้จ่าย 
3. Exclusive เพิ่มความพิเศษและความเป็นส่วนตัวด้วยสินค้าและบริการเฉพาะบุคคล เช่น การสลักชื่อ หรือสินค้า Limited Edition เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าตนเองเป็นคนพิเศษ การใช้สินค้าและบริการของแบรนด์สามารถสะท้อนตัวตนที่ต้องการให้ผู้อื่นเห็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถใช้เป็นทั้งเทคนิคเพิ่มยอดขายและสร้าง Brand Loyalty ให้แข็งแรง 
4. Experience สร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า อาจจะเป็นคูปองส่วนลดพิเศษ การสะสมคะแนนสมาชิก ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าลูกค้าของเราเป็นใคร 

           การสร้าง Brand Loyalty เป็นเทคนิคเพิ่มยอดขายที่สำคัญ ซึ่งนอกจากการวางแผนการตลาดแล้ว เครื่องมือต่าง ๆ ก็มีส่วนช่วยให้ลูกค้ามีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น LINE OA หรือ MyShop ซึ่งจะช่วยรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าและปิดการขายได้อย่างง่ายดาย สามารถจ่ายเงินได้หลากหลายช่องทางทั้งการโอน ใช้บัตรเครดิต ชำระปลายทาง และผ่าน Rabbit Line Pay นอกจากนี้ยังสามารถติด Tag ลูกค้า เพื่อการสื่อสารและทำโปรโมชันที่ตรงกับความต้องการอีกด้วย 

ข้อมูลอ้างอิง

1. ผลวิจัยชี้ เทคนิคมัดใจลูกค้ายุคดิจิทัลต้อง ‘แฮปปี้มาร์เก็ตติ้ง’. สืบค้นเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2565 จาก https://marketeeronline.co/archives/163214
2. วิธีสร้าง brand loyalty ให้กับ แบรนด์ของเรา.  สืบค้นเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2565 จาก https://www.fillgoods.co/online-biz/shop-orders-how-to-build-brand-loyalty