- แคมเปญการตลาดออนไลน์แบบไหน ที่ทำให้ออเดอร์พุ่ง! นับเงินแทบไม่ทัน!
แคมเปญการตลาดออนไลน์แบบไหน ที่ทำให้ออเดอร์พุ่ง! นับเงินแทบไม่ทัน!
สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ MyShop จะมาบอกเคล็ดลับออเดอร์พุ่ง แบบนับเงินแทบไม่ทันว่าแคมเปญการตลาดออนไลน์แบบไหนที่จะช่วยเพิ่มรายได้ให้คุณได้อย่างสัมฤทธิผล จะเป็นแคมเปญแบบไหนบ้าง มาดูกันเลยครับ
1.1 2.2 3.3 ลากยาวกันไปเลย
แคมเปญการตลาดนี้เกิดขึ้นจาก 11.11 หรือวันคนโสดของจีน เกิดขึ้นจากเว็บไซต์ alibaba ของจีนทำแคมเปญการตลาดที่ร้านค้าออนไลน์ออกมาลดราคาสินค้ากระหน่ำแบบจัดเต็ม เรียกได้ว่าเป็นแคมเปญที่ออกมาเพื่อประชดคนมีคู่กัน เพราะว่าเหล่าคนโสดก็จะได้ใช้เวลาช้อปปิ้งออนไลน์อย่างสนุกสนาน แถมยังมีร้านรวงที่ออกโปรหั่นราคามากมายถึง 50%-90% กันเลยทีเดียว นอกจากนั้นเมื่อเราย้อนเปิดตัวเลขยอดขายรวมของ alibaba เมื่อปี พ.ศ. 2563 แล้วมียอดรายได้จากการซื้อขายในช่วงระยะเวลาแคมเปญสูงถึงราว 1.7 ล้านล้านบาท ก็ย่อมเป็นตัวบอกความสำเร็จของแคมเปญนี้ได้แล้ว เช่นกันครับแพลตฟอร์มขายของออนไลน์หลายเจ้าก็มีการเล่นกับแคมเปญ 11.11
แบบจัดเต็ม กลายเป็นมหกรรมแคมเปญที่ยิ่งใหญ่และมีทุกเดือนเลยครับ โดยคุณอาจเปลี่ยนจากการลดราคาเป็นการเพิ่มของแถม, บริการส่งฟรี, จัดโปรโมชันกับ LINE POINTS หรือการจับคู่สินค้าเพื่อได้ส่วนลด ก็เป็นการกระตุ้นลูกค้าให้อยากซื้อสินค้าได้ ดังนั้นแคมเปญ 4.4 ที่จะถึงนี้ MyShop คิดว่าคุณคงได้ไอเดียกันแล้วนะครับ
คนละครึ่ง เราชนะ ม. 33 เรารักกัน
อีกหนึ่งโครงการของรัฐบาลที่ออกมาเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของคนไทย โดยโครงการคนละครึ่งนั้น ทางรัฐบาลจะทำการออกค่าใช้จ่ายให้ 50% ของค่าใช้จ่ายและเราออกอีก 50% ที่เหลือ กำหนดค่าใช้จ่ายสูงสุด 300 บาท/วัน (รัฐบาลออกให้ 150 บาทและคุณออกเองอีก 150 บาท)
โดยรัฐบาลจะให้โควต้าเงินค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 3,500 บาท ในขณะที่เราชนะมอบให้กับบุคคลทั่วไปที่ไม่เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 โดยจะได้เงินสูงสุดที่ 7,000 บาทโดยเราไม่จำเป็นจะต้องออกค่าใช้จ่ายเอง ในทางกลับกันหากคุณเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 สามารถเข้าโครงการ ม.33เรารักกัน จะได้เงินช่วยเหลืออยู่ที่ 4,000 บาท
จากข้อมูลที่ MyShop ให้มานี้ ต้องขอบอกว่าร้านค้าที่รับหรือเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งหรือเราชนะนั้น ก็จะได้รับความนิยมมากกว่าร้านค้าที่ไม่รับ อีกทั้งข้อจำกัดที่สำคัญคือการสมัครเข้าร่วมแคมเปญนี้ คุณจำเป็นต้องมีหน้าร้าน สถานประกอบการที่ชัดเจนครับ ดังนั้นหากเจ้าของร้านค้าไหนที่มีหน้าร้านอยู่แล้ว การจะเข้าร่วมโครงการเหล่านี้ก็จะช่วยกระตุ้นรายได้ อีกทั้งในเร็วๆ นี้ ก็จะมีการเปิดสมัครโครงการคนละครึ่งเฟส 3 เพราะฉะนั้นอย่าพลาดช่องทางที่จะเพิ่มรายได้ให้กับคุณ
อย่างไรก็ตาม หากคุณไม่สามารถที่จะสมัครเข้าร่วมโครงการเหล่านี้ได้ MyShop ขอแนะนำว่า คุณก็สามารถนำคีย์เวิร์ดของคำเรานี้มาสร้างเป็นแคมเปญการตลาดได้เช่นกัน ทั้งเป็นการดึงดูดลูกค้าอย่างมีความคิดสร้างสรรค์อีกด้วยครับ หรือสามารถติดตามสมัครเข้าร่วมแคมเปญจาก MyShop ก็จะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับคุณแบบที่นับออเดอร์กันไม่หวาดไม่ไหวเลยครับ
จ้าง Influencer ตัวจริงสิครับ
เพราะสินค้าและร้านค้าในโลกอินเตอร์เน็ตมีเยอะ ตัวเลือกที่มากเกินไปหรืออาการ overwhelming นั้นทำให้เราเลือกไม่ถูกและสุดท้ายไม่เลือกเลยดีกว่า! ทว่าหากมีคนมาบอกเราว่าอันนี้ดี ร้านนี้น่าเชื่อถือ ผลิตภัณฑ์นี้ดีเหมาะสมกับคุณ จะทำให้คุณตัดสินใจง่ายขึ้นว่าอยากซื้อสินค้านี้กับร้านนี้เท่านั้น การมี influencer นั้นนอกจากจะช่วยเพื่อการจดจำของร้านค้าได้มากขึ้น ยังสามารถเพิ่มยอดขายให้คุณได้อย่างแน่นอน ในปัจจุบันนี้การจ้างคนมารีวิวหรือ influencer มารีวิวไม่จำเป็นที่จะต้องมีคนติดตามเยอะแล้ว เพราะกระแส Nano influencer หรือกลุ่มที่มีผู้ติดตามประมาณหลักพันค่อนข้างมาแรง เพราะมีความจริงใจและซื่อสัตย์มากกว่ากลุ่มที่มีผู้ติดตามเยอะ ดังนั้นหากคุณอยากจะลองจ้างเหล่า Nano influencer มารีวิวก็เหมาะสมครับ
แถมเดี๋ยวนี้ยังมีครีเอเตอร์เกิดขึ้นมากมายทำให้คอนเทนท์ในการนำเสนอขายแบบมีความสร้างสรรค์มากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วยครับ แต่อย่าลืมนะครับ คุณควรเลือกกลุ่มของ influencer ให้ตรงกับฐานลูกค้าของเราด้วยนะครับ
จากแคมเปญการตลาดออนไลน์และออฟไลน์ ที่ทาง MyShop แนะนำไปล้วนแต่เป็นแคมเปญที่ประสบความสำเร็จ เพิ่มยอดขายได้จริง
จนหลายร้านรับออเดอร์ไม่ทันกันเลยทีเดียวครับ อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่จะทำให้ร้านค้าขายของออนไลน์มีออเดอร์เยอะไม่ใช่แค่การตลาดออนไลน์เพียงเท่านั้น แต่การใส่ใจลูกค้า ตอบกลับลูกค้า และจัดส่งสินค้าอย่างรวดเร็วนับเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ลูกค้าของเรากลับมาใช้บริการต่อหรือเกิดรีวิวเชิงบวก ดังนั้นแอปพลิเคชัน MyShop ที่สามารถจัดการและอำนวยความสะดวกให้กับคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นการอัปเดตสถานะ การจัดการสต็อก การจัดการส่ง เพียงสมัครมี Line Official Account ก็สมัครได้เลยทันทีครับ