- ถอดกลยุทธ์นักการตลาด โพสต์ขายของต้องใช้ CTA กระตุ้นการซื้อ
ถอดกลยุทธ์นักการตลาด โพสต์ขายของต้องใช้ CTA กระตุ้นการซื้อ
เทคนิคการใช้ CTA ในการโพสต์ขายของให้ปังปุริเย่
เคยหรือไม่โพสต์อะไรไป ได้แต่ยอดไลก์ไม่ได้ยอดโอน ลูกค้าไม่ทัก ไม่สมัคร แต่บางโพสต์กลับมีแต่คนทักมาถาม
รู้หรือไม่ว่า การโพสต์ขายของไม่ใช่แค่เราโพสต์ภาพประกอบที่สวยงามและน่าสนใจ แต่เราต้องกำหนดวัตถุประสงค์ของการโพสต์ และองค์ประกอบที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือ Call to Action (CTA) ซึ่งเป็นข้อความกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายของเรามี Action ที่เราต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการทักข้อความ สมัครใช้บริการ หรือสั่งซื้อสินค้า ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การกระตุ้นยอดขายได้แบบปัง ๆ
CTA คืออะไร ทำไมต้องใส่ไปในโพสต์ของเรา
CTA หรือ Call to Action จะมีลักษณะเป็นปุ่ม หรือข้อความที่กระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมาย หรือผู้ที่เห็นโฆษณามี Action ที่เราต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการกดสั่งซื้อ สมัครสมาชิก ไปที่เว็บไซต์ ลงทะเบียน ส่งข้อความสอบถามเพิ่มเติม หรือกดใส่ตะกร้า
ปัจจุบันทุกคนรู้ว่า Call to Action มีความสำคัญมาก เพราะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราบรรลุวัตถุประสงค์การทำโพสต์ต่าง ๆ แต่รู้หรือไม่ว่า Call to Action ไม่ใช่แค่การใส่ปุ่มที่ดึงดูดลงไปในโพสต์ หรืออาร์ตเวิร์ก แต่ยังมีเทคนิคต่าง ๆ ที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์และผู้ประกอบการต้องทราบ เพื่อนำไปปรับใช้กับการโพสต์ขายของของเรานั่นเอง
องค์ประกอบของ CTA
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า CTA ไม่ใช่แค่ปุ่มที่เป็นองค์ประกอบสำคัญ แต่ CTA มีหลากหลายองค์ประกอบซึ่งเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้กลุ่มเป้าหมายของเรา “กด” ปุ่ม
Copywriter
“คำ” ที่กระตุ้นให้กดนั้น เป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในการโพสต์ขายของ จะต้องเป็นคำที่เข้าใจง่าย สามารถกระตุ้นให้คนกด อาจจะโดยตั้งใจอยากกด หรือกดด้วยความอยากรู้ก็ตาม โดยคำที่นิยมใช้จะเป็นคำว่า “ซื้อเลย” “หยิบใส่ตะกร้าเลย” “Shop NOW!” “สมัครวันนี้” “รับสิทธิพิเศษ” “ช้อปเลย”
คำที่ยกตัวอย่างมาจะสังเกตเห็นได้ว่า จะเป็นคำที่กระชับ และจะไม่ใช่แค่คำว่า “ซื้อ” หรือ “ช้อป” เฉย ๆ เท่านั้น แต่เรานิยมจะใช่คำกระตุ้นอย่าง “...เลย” “...วันนี้” “..เท่านั้น” “ฟรี” เป็นการเร้าอารมณ์และความรู้สึกร่วมให้คนอ่านทำตามทันทีนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ข้อความในปุ่ม CTA ควรจะคัดเลือกข้อความที่ตรงกับวัตถุประสงค์ของโฆษณาหรือโพสต์ของเรา และมีเนื้อหาที่สอดคล้องกัน
กราฟิก
นอกจากข้อความที่ต้องดึงดูดใจแล้ว ตัวปุ่มจะต้องมีความดึงดูดใจเช่นเดียวกัน โดยปุ่มจะต้องมีความน่ากด หรือมีสีที่กระตุ้นอยากให้คนอยากกดปุ่มในการโพสต์ขายของ ซึ่งมีหลักการง่าย ๆ ดังนี้
- สีต้องโดดเด่น สังเกตเห็นง่ายจากพื้นหลัง
- ตำแหน่งต้องมองเห็นง่าย กวาดสายตาครั้งแรกต้องเห็นปุ่มเลย
- ควรอยู่ตรงกลาง หรือมีพื้นที่ว่างโดยรอบ ไม่มีองค์ประกอบอื่น ๆ มาแย่งความโดดเด่น
- ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป
คอนเทนต์ประกอบ
การมีแค่ภาพและปุ่ม CTA อาจจะไม่มากพอที่จะทำให้กลุ่มเป้าหมายของเรากดปุ่ม แต่คอนเทนต์ประกอบจะเป็นแรงผลักดันให้คนกดปุ่มในการโพสต์ขายของ ซึ่งจะเป็นคำอธิบายหรือเป็นคำโฆษณาก่อนที่จะเจอปุ่ม CTA ซึ่งสามารถอยู่ได้ทั้งในอาร์ตเวิร์กและแคปชัน
คอนเทนต์ที่ประกอบควรจะเป็นข้อมูลที่ไปในทางเดียวกันกับปุ่ม CTA ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า โปรโมชัน หรือระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยบิลด์อารมณ์ให้คนกดมากยิ่งขึ้น
ข้อความ CTA ในแคปชัน
นอกจากการใส่ CTA ลงไปในอาร์ตเวิร์กแล้ว เรายังสามารถใส่ข้อความกระตุ้นให้คนกดปุ่มหรือลิงก์ในแคปชันได้อีกด้วย หากว่าเป็นการโพสต์ขายของ แนะนำว่าให้ใส่ลงไปในตอนต้นของโพสต์ หรือประมาณ 2-3 บรรทัดแรก เพื่อไม่ให้ข้อความหายไปอยู่ในส่วนของ Read More
ข้อความ CTA แนะนำให้เป็นข้อความคล้ายคลึงหรือเป็นข้อความเดียวกันกับในปุ่ม เป็นเหมือนการย้ำเตือนและบอกซ้ำ ๆ ให้กลุ่มเป้าหมายทำตามนั่นเอง
เทคนิคการใช้ CTA ที่มากกว่าแค่ปุ่มกด
เมื่อรู้จักองค์ประกอบของ CTA แล้ว ขั้นตอนต่อมาที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การใช้ข้อความกระตุ้นให้คนกด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคำที่ทำให้รู้สึกถึงความพิเศษ หรือการพลาดโอกาส หรือสิ่งที่คุ้มค่า โดยมีหลักดังต่อไปนี้
- จำกัดระยะเวลา หรือความรู้สึกว่าห้ามพลาดโอกาส ไม่ว่าจะเป็น “10 วันเท่านั้น” “สิทธิพิเศษเฉพาะคุณ” “Limited Edition” “มีเพียง 10 ชิ้นเท่านั้น” “สมัครวันนี้ ฟรี 10 วัน” “1 แถม 1เฉพาะวันนี้เท่านั้น” ซึ่งจะกระตุ้นความกลัวของคนที่จะพลาดอะไรบางอย่าง ทำให้คนรีบตัดสินใจ
- ตอบทุกข้อสงสัย แม้ว่าเราจะต้องเลือกคำที่ดี และพิถีพิถันในการเลือกคำและกราฟิกของปุ่ม CTA แต่อย่าลืมว่า ข้อมูลต่าง ๆ ที่ประกอบอยู่ในโพสต์ขายของของเราก็มีความสำคัญและจำเป็น เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายของเราอาจจะมีความเคลือบแคลงสงสัยในการกดปุ่มสมัคร หรือลงทะเบียนสั่งซื้อสินค้า เราจึงควรมีข้อความที่คลายข้อสงสัยดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาโปรโมชัน ความน่าเชื่อถือของบริษัท การไม่มีข้อผูกมัด สามารถยกเลิกได้ทันทีที่ต้องการ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่กลุ่มเป้าหมายของเรา
- ท้าทาย หรือกระตุ้นความสนใจ เป็นการกระตุ้นให้คนคิดหรือตั้งคำถาม และสนใจสินค้าของเรา เช่น หากว่าเราขายวาซาบิ เราอาจจะมีข้อความกระตุ้นให้คนสนใจ โดยเปิดด้วยคำถามที่ว่า “วาซาบิที่คุณเคยกิน จี๊ดจริงหรือหลอก” จากนั้นใส่ข้อความในปุ่ม CTA ว่า “รับฟรีวาซาบิขนาดทดลอง” เป็นต้น
- ทำปุ่มให้มีความโดดเด่น อย่างที่กล่าวไปตอนต้นแล้วว่า เราควรจะให้คนมองเห็นปุ่ม CTA ในครั้งแรกที่กวาดสายตามอง
- เชิญชวน เทคนิคสุดท้ายที่นำมาฝากในวันนี้คือ การเชิญชวนให้ลอง ไม่ว่าจะเป็นการแจกตัวอย่างฟรี หรือเชิญชวนให้ลองใช้ เช่น “กดรับความสบายวันนี้”
ตัวอย่างคำ CTA ที่เชิญชวนให้กด
- ซื้อเลย
- กดใส่ตะกร้าวันนี้
- ทดลองฟรี
- รับชมฟรี 30 วัน
- Shop Now
- สมัครสมาชิกฟรี!
ทั้งหมดนี้คือเทคนิคง่าย ๆ ในการโพสต์ขายของโดยใช้ CTA เป็นตัวกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อสินค้าหรือบริการ ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์ใน LINE OA หรือการลงโฆษณาใน LINE Ads Platform หรือแม้กระทั่งในร้านค้าใน LINE SHOPPING ที่จะช่วยให้คุณขายของได้ยอดปัง ๆ แบบไม่มีสะดุด