เทคนิคการใช้ CTA ในการโพสต์ขายของ

ถอดกลยุทธ์นักการตลาด โพสต์ขายของต้องใช้ CTA กระตุ้นการซื้อ

webclip.png
26 Sep 2022

เทคนิคการใช้ CTA ในการโพสต์ขายของให้ปังปุริเย่

 

เคยหรือไม่โพสต์อะไรไป ได้แต่ยอดไลก์ไม่ได้ยอดโอน ลูกค้าไม่ทัก ไม่สมัคร แต่บางโพสต์กลับมีแต่คนทักมาถาม 

รู้หรือไม่ว่า การโพสต์ขายของไม่ใช่แค่เราโพสต์ภาพประกอบที่สวยงามและน่าสนใจ แต่เราต้องกำหนดวัตถุประสงค์ของการโพสต์ และองค์ประกอบที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือ Call to Action (CTA) ซึ่งเป็นข้อความกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายของเรามี Action ที่เราต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการทักข้อความ สมัครใช้บริการ หรือสั่งซื้อสินค้า ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การกระตุ้นยอดขายได้แบบปัง ๆ

 

CTA คืออะไร ทำไมต้องใส่ไปในโพสต์ของเรา

CTA หรือ Call to Action จะมีลักษณะเป็นปุ่ม หรือข้อความที่กระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมาย หรือผู้ที่เห็นโฆษณามี Action ที่เราต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการกดสั่งซื้อ สมัครสมาชิก ไปที่เว็บไซต์ ลงทะเบียน ส่งข้อความสอบถามเพิ่มเติม หรือกดใส่ตะกร้า 

ปัจจุบันทุกคนรู้ว่า Call to Action มีความสำคัญมาก เพราะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราบรรลุวัตถุประสงค์การทำโพสต์ต่าง ๆ แต่รู้หรือไม่ว่า Call to Action ไม่ใช่แค่การใส่ปุ่มที่ดึงดูดลงไปในโพสต์ หรืออาร์ตเวิร์ก แต่ยังมีเทคนิคต่าง ๆ ที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์และผู้ประกอบการต้องทราบ เพื่อนำไปปรับใช้กับการโพสต์ขายของของเรานั่นเอง 

 

 องค์ประกอบของ CTA

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า CTA ไม่ใช่แค่ปุ่มที่เป็นองค์ประกอบสำคัญ แต่ CTA มีหลากหลายองค์ประกอบซึ่งเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้กลุ่มเป้าหมายของเรา “กด” ปุ่ม 

 

Copywriter

“คำ” ที่กระตุ้นให้กดนั้น เป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในการโพสต์ขายของ จะต้องเป็นคำที่เข้าใจง่าย สามารถกระตุ้นให้คนกด อาจจะโดยตั้งใจอยากกด หรือกดด้วยความอยากรู้ก็ตาม โดยคำที่นิยมใช้จะเป็นคำว่า “ซื้อเลย” “หยิบใส่ตะกร้าเลย” “Shop NOW!” “สมัครวันนี้” “รับสิทธิพิเศษ” “ช้อปเลย” 

คำที่ยกตัวอย่างมาจะสังเกตเห็นได้ว่า จะเป็นคำที่กระชับ และจะไม่ใช่แค่คำว่า “ซื้อ” หรือ “ช้อป” เฉย ๆ เท่านั้น แต่เรานิยมจะใช่คำกระตุ้นอย่าง “...เลย” “...วันนี้” “..เท่านั้น” “ฟรี” เป็นการเร้าอารมณ์และความรู้สึกร่วมให้คนอ่านทำตามทันทีนั่นเอง 

อย่างไรก็ตาม ข้อความในปุ่ม CTA ควรจะคัดเลือกข้อความที่ตรงกับวัตถุประสงค์ของโฆษณาหรือโพสต์ของเรา และมีเนื้อหาที่สอดคล้องกัน

 

กราฟิก

นอกจากข้อความที่ต้องดึงดูดใจแล้ว ตัวปุ่มจะต้องมีความดึงดูดใจเช่นเดียวกัน โดยปุ่มจะต้องมีความน่ากด หรือมีสีที่กระตุ้นอยากให้คนอยากกดปุ่มในการโพสต์ขายของ  ซึ่งมีหลักการง่าย ๆ ดังนี้

  • สีต้องโดดเด่น สังเกตเห็นง่ายจากพื้นหลัง 
  • ตำแหน่งต้องมองเห็นง่าย กวาดสายตาครั้งแรกต้องเห็นปุ่มเลย 
  • ควรอยู่ตรงกลาง หรือมีพื้นที่ว่างโดยรอบ ไม่มีองค์ประกอบอื่น ๆ มาแย่งความโดดเด่น 
  • ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป 

 

คอนเทนต์ประกอบ

การมีแค่ภาพและปุ่ม CTA อาจจะไม่มากพอที่จะทำให้กลุ่มเป้าหมายของเรากดปุ่ม แต่คอนเทนต์ประกอบจะเป็นแรงผลักดันให้คนกดปุ่มในการโพสต์ขายของ ซึ่งจะเป็นคำอธิบายหรือเป็นคำโฆษณาก่อนที่จะเจอปุ่ม CTA ซึ่งสามารถอยู่ได้ทั้งในอาร์ตเวิร์กและแคปชัน 

คอนเทนต์ที่ประกอบควรจะเป็นข้อมูลที่ไปในทางเดียวกันกับปุ่ม CTA ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า โปรโมชัน หรือระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยบิลด์อารมณ์ให้คนกดมากยิ่งขึ้น 

 

 ข้อความ CTA ในแคปชัน

นอกจากการใส่ CTA ลงไปในอาร์ตเวิร์กแล้ว เรายังสามารถใส่ข้อความกระตุ้นให้คนกดปุ่มหรือลิงก์ในแคปชันได้อีกด้วย หากว่าเป็นการโพสต์ขายของ แนะนำว่าให้ใส่ลงไปในตอนต้นของโพสต์ หรือประมาณ 2-3 บรรทัดแรก เพื่อไม่ให้ข้อความหายไปอยู่ในส่วนของ Read More 

ข้อความ CTA แนะนำให้เป็นข้อความคล้ายคลึงหรือเป็นข้อความเดียวกันกับในปุ่ม เป็นเหมือนการย้ำเตือนและบอกซ้ำ ๆ ให้กลุ่มเป้าหมายทำตามนั่นเอง 

 

เคยหรือไม่โพสต์อะไรไป ได้แต่ยอดไลก์ไม่ได้ยอดโอน ลูกค้าไม่ทัก ไม่สมัคร แต่บางโพสต์กลับมีแต่คนทักมาถาม  รู้หรือไม่ว่า การโพสต์ขายของไม่ใช่แค่เราโพสต์ภาพประกอบที่สวยงามและน่าสนใจ แต่เราต้องกำหนดวัตถุประสงค์ของการโพสต์ และองค์ประกอบที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือ Call to Action (CTA) ซึ่งเป็นข้อความกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายของเรามี Action ที่เราต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการทักข้อความ สมัครใช้บริการ หรือสั่งซื้อสินค้า ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การกระตุ้นยอดขายได้แบบปัง ๆ  <H2> CTA คืออะไร ทำไมต้องใส่ไปในโพสต์ของเรา </H2> 	CTA หรือ Call to Action จะมีลักษณะเป็นปุ่ม หรือข้อความที่กระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมาย หรือผู้ที่เห็นโฆษณามี Action ที่เราต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการกดสั่งซื้อ สมัครสมาชิก ไปที่เว็บไซต์ ลงทะเบียน ส่งข้อความสอบถามเพิ่มเติม หรือกดใส่ตะกร้า  	ปัจจุบันทุกคนรู้ว่า Call to Action มีความสำคัญมาก เพราะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราบรรลุวัตถุประสงค์การทำโพสต์ต่าง ๆ แต่รู้หรือไม่ว่า Call to Action ไม่ใช่แค่การใส่ปุ่มที่ดึงดูดลงไปในโพสต์ หรืออาร์ตเวิร์ก แต่ยังมีเทคนิคต่าง ๆ ที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์และผู้ประกอบการต้องทราบ เพื่อนำไปปรับใช้กับการโพสต์ขายของของเรานั่นเอง   <H2> องค์ประกอบของ CTA </H2> 	อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า CTA ไม่ใช่แค่ปุ่มที่เป็นองค์ประกอบสำคัญ แต่ CTA มีหลากหลายองค์ประกอบซึ่งเป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้กลุ่มเป้าหมายของเรา “กด” ปุ่ม   <H3> Copywriter </H3> 	“คำ” ที่กระตุ้นให้กดนั้น เป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในการโพสต์ขายของ จะต้องเป็นคำที่เข้าใจง่าย สามารถกระตุ้นให้คนกด อาจจะโดยตั้งใจอยากกด หรือกดด้วยความอยากรู้ก็ตาม โดยคำที่นิยมใช้จะเป็นคำว่า “ซื้อเลย” “หยิบใส่ตะกร้าเลย” “Shop NOW!” “สมัครวันนี้” “รับสิทธิพิเศษ” “ช้อปเลย”  	คำที่ยกตัวอย่างมาจะสังเกตเห็นได้ว่า จะเป็นคำที่กระชับ และจะไม่ใช่แค่คำว่า “ซื้อ” หรือ “ช้อป” เฉย ๆ เท่านั้น แต่เรานิยมจะใช่คำกระตุ้นอย่าง “...เลย” “...วันนี้” “..เท่านั้น” “ฟรี” เป็นการเร้าอารมณ์และความรู้สึกร่วมให้คนอ่านทำตามทันทีนั่นเอง  	อย่างไรก็ตาม ข้อความในปุ่ม CTA ควรจะคัดเลือกข้อความที่ตรงกับวัตถุประสงค์ของโฆษณาหรือโพสต์ของเรา และมีเนื้อหาที่สอดคล้องกัน  	<H3> กราฟิก </H3> 	นอกจากข้อความที่ต้องดึงดูดใจแล้ว ตัวปุ่มจะต้องมีความดึงดูดใจเช่นเดียวกัน โดยปุ่มจะต้องมีความน่ากด หรือมีสีที่กระตุ้นอยากให้คนอยากกดปุ่มในการโพสต์ขายของ  ซึ่งมีหลักการง่าย ๆ ดังนี้ สีต้องโดดเด่น สังเกตเห็นง่ายจากพื้นหลัง  ตำแหน่งต้องมองเห็นง่าย กวาดสายตาครั้งแรกต้องเห็นปุ่มเลย  ควรอยู่ตรงกลาง หรือมีพื้นที่ว่างโดยรอบ ไม่มีองค์ประกอบอื่น ๆ มาแย่งความโดดเด่น  ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป   	<H3> คอนเทนต์ประกอบ </H3> 	การมีแค่ภาพและปุ่ม CTA อาจจะไม่มากพอที่จะทำให้กลุ่มเป้าหมายของเรากดปุ่ม แต่คอนเทนต์ประกอบจะเป็นแรงผลักดันให้คนกดปุ่มในการโพสต์ขายของ ซึ่งจะเป็นคำอธิบายหรือเป็นคำโฆษณาก่อนที่จะเจอปุ่ม CTA ซึ่งสามารถอยู่ได้ทั้งในอาร์ตเวิร์กและแคปชัน  	คอนเทนต์ที่ประกอบควรจะเป็นข้อมูลที่ไปในทางเดียวกันกับปุ่ม CTA ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า โปรโมชัน หรือระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยบิลด์อารมณ์ให้คนกดมากยิ่งขึ้น  	<H3> ข้อความ CTA ในแคปชัน </H3> 	นอกจากการใส่ CTA ลงไปในอาร์ตเวิร์กแล้ว เรายังสามารถใส่ข้อความกระตุ้นให้คนกดปุ่มหรือลิงก์ในแคปชันได้อีกด้วย หากว่าเป็นการโพสต์ขายของ แนะนำว่าให้ใส่ลงไปในตอนต้นของโพสต์ หรือประมาณ 2-3 บรรทัดแรก เพื่อไม่ให้ข้อความหายไปอยู่ในส่วนของ Read More  	ข้อความ CTA แนะนำให้เป็นข้อความคล้ายคลึงหรือเป็นข้อความเดียวกันกับในปุ่ม เป็นเหมือนการย้ำเตือนและบอกซ้ำ ๆ ให้กลุ่มเป้าหมายทำตามนั่นเอง

 

เทคนิคการใช้ CTA ที่มากกว่าแค่ปุ่มกด

เมื่อรู้จักองค์ประกอบของ CTA แล้ว ขั้นตอนต่อมาที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การใช้ข้อความกระตุ้นให้คนกด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคำที่ทำให้รู้สึกถึงความพิเศษ หรือการพลาดโอกาส หรือสิ่งที่คุ้มค่า โดยมีหลักดังต่อไปนี้

  1. จำกัดระยะเวลา หรือความรู้สึกว่าห้ามพลาดโอกาส ไม่ว่าจะเป็น “10 วันเท่านั้น” “สิทธิพิเศษเฉพาะคุณ” “Limited Edition” “มีเพียง 10 ชิ้นเท่านั้น” “สมัครวันนี้ ฟรี 10 วัน” “1 แถม 1เฉพาะวันนี้เท่านั้น” ซึ่งจะกระตุ้นความกลัวของคนที่จะพลาดอะไรบางอย่าง ทำให้คนรีบตัดสินใจ
  2. ตอบทุกข้อสงสัย แม้ว่าเราจะต้องเลือกคำที่ดี และพิถีพิถันในการเลือกคำและกราฟิกของปุ่ม CTA แต่อย่าลืมว่า ข้อมูลต่าง ๆ ที่ประกอบอยู่ในโพสต์ขายของของเราก็มีความสำคัญและจำเป็น เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายของเราอาจจะมีความเคลือบแคลงสงสัยในการกดปุ่มสมัคร หรือลงทะเบียนสั่งซื้อสินค้า เราจึงควรมีข้อความที่คลายข้อสงสัยดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาโปรโมชัน ความน่าเชื่อถือของบริษัท การไม่มีข้อผูกมัด สามารถยกเลิกได้ทันทีที่ต้องการ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่กลุ่มเป้าหมายของเรา 
  3. ท้าทาย หรือกระตุ้นความสนใจ เป็นการกระตุ้นให้คนคิดหรือตั้งคำถาม และสนใจสินค้าของเรา เช่น หากว่าเราขายวาซาบิ เราอาจจะมีข้อความกระตุ้นให้คนสนใจ โดยเปิดด้วยคำถามที่ว่า “วาซาบิที่คุณเคยกิน จี๊ดจริงหรือหลอก” จากนั้นใส่ข้อความในปุ่ม CTA ว่า “รับฟรีวาซาบิขนาดทดลอง” เป็นต้น
  4. ทำปุ่มให้มีความโดดเด่น อย่างที่กล่าวไปตอนต้นแล้วว่า เราควรจะให้คนมองเห็นปุ่ม CTA ในครั้งแรกที่กวาดสายตามอง 
  5. เชิญชวน เทคนิคสุดท้ายที่นำมาฝากในวันนี้คือ การเชิญชวนให้ลอง ไม่ว่าจะเป็นการแจกตัวอย่างฟรี หรือเชิญชวนให้ลองใช้ เช่น “กดรับความสบายวันนี้” 

 

ตัวอย่างคำ CTA ที่เชิญชวนให้กด

  • ซื้อเลย
  • กดใส่ตะกร้าวันนี้
  • ทดลองฟรี
  • รับชมฟรี 30 วัน 
  • Shop Now
  • สมัครสมาชิกฟรี! 

 

ทั้งหมดนี้คือเทคนิคง่าย ๆ  ในการโพสต์ขายของโดยใช้ CTA เป็นตัวกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อสินค้าหรือบริการ ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์ใน LINE OA หรือการลงโฆษณาใน LINE Ads Platform หรือแม้กระทั่งในร้านค้าใน LINE SHOPPING ที่จะช่วยให้คุณขายของได้ยอดปัง ๆ แบบไม่มีสะดุด 

เปิดร้านขายบน LINE SHOPPING ได้แล้ววันนี้

ต่อยอดการขายด้วย MyShop เครื่องมือตัวช่วยจัดการร้านค้าจาก LINE

บทความที่เกี่ยวข้อง
my-shop-logo

ตัวช่วยการขายที่ทุกร้านค้าออนไลน์ต้องมี

MyShop Download on the App Store MyShop Get it on Google Play

© LY Corporation 2023