- โฆษณาในไลน์คิดราคาและมีรูปแบบอย่างไร
LINE Ads Platform มีรูปแบบการตั้งราคาอย่างไร
LINE เป็นแอปพลิเคชันแชทที่คนไทยใช้กันมากที่สุด และใช้กันทุกวัน การโฆษณาในไลน์จึงได้รับความนิยมจากร้านค้าจำนวนมาก เพราะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้ง่าย สามารถติดต่อกันได้ทันทีผ่านการแชท และมีหลากหลายรูปแบบให้เลือก
สำหรับพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ต้องการโฆษณาผ่านช่องทาง LINE Ads Platform หรือ LAP แต่ยังไม่รู้ว่าราคาเท่าไร และคิดราคาอย่างไร แล้วแบบไหนที่เหมาะกับร้านค้าของเรา วันนี้มีคำตอบมาฝากกัน รับรองว่าเข้าใจง่าย และสามารถทำเองได้ไม่ต้องง้อใคร
การแสดงผลของ LAP
โฆษณาในไลน์จะมีการแสดงผลอยู่ทั้งหมด 5 แบบ ให้เราเลือกดังต่อไปนี้
- LINE Home Tab เป็น Tab ในหน้า Home ในไลน์ของแต่ละคน ช่วยเพิ่มยอดการมองเห็นได้
- Smart Channel หรือ LINE Chat List อยู่ด้านบนสุดของ List ช่วยเพิ่มยอดติดตามได้ดี
- LINE VOOM โดยจะขึ้นให้เห็นว่าเป็น Sponsored ซึ่ง LINE VOOM จะทำหน้าที่เหมือนหน้า Feed ที่บอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ
- LINE TODAY เป็นหน้าที่รวบรวมข่าวสารที่น่าสนใจ มีหลายหมวดหมู่ให้เลือกแสดง
- Wallet ของ LINE ที่จะขึ้นเป็น pop-up
รูปแบบการจ่ายเงินของ LAP
สำหรับใครที่เคยซื้อโฆษณาผ่านช่องทางอื่นมาก่อน คงจะคุ้นเคยกับการเลือกว่าจะจ่ายเงินแบบ CPM หรือ Cost Per Thousand Impressions ซึ่งเป็นโฆษณาที่คิดราคาจากจำนวนที่มีคนเห็นโฆษณา 1,000 ครั้ง ซึ่งคนที่เห็นอาจจะไม่คลิกสักครั้งเลยก็ได้ และโฆษณา CPC หรือ Cost Per Click โดยจะคิดค่าโฆษณาเฉพาะที่มีคนคลิกเท่านั้น แต่สำหรับการโฆษณาในไลน์จะมีรูปแบบการจ่ายเงินให้เลือกหลากหลายมากกว่า ดังต่อไปนี้
Cost Per Impressions (CPM)
เป็นการคิดเงินค่าโฆษณาทุก 1,000 ครั้งที่โฆษณาปรากฏ ไม่ว่าเราจะเลือกโฆษณาในตำแหน่งไหน ไม่สนใจว่ากลุ่มเป้าหมายของเราจะคลิกดูหรือไม่ก็ตาม ซึ่งเป็นรูปแบบเหมือนกับการเก็บเงินของหลาย ๆ แพลตฟอร์ม เหมาะแก่ร้านค้าที่ต้องการสร้าง Awareness ให้กลุ่มเป้าหมายรู้จักเราก่อน
Cost Per Click (CPC)
เป็นการคิดเงินค่าโฆษณาจากการคลิกของกลุ่มเป้าหมายหนึ่งครั้ง ซึ่งหลายแบรนด์นิยมใช้การจ่ายเงินแบบนี้ เพราะเราจะจ่ายเงินค่าโฆษณาต่อเมื่อมีคนเข้ามาคลิกเท่านั้น ซึ่งเราสามารถตั้งให้ไปที่เว็บไซต์ของเรา ดูวิดีโอ และซื้อสินค้าได้ตามต้องการ
Cost Per Friend (CPF)
เป็นการคิดเงินค่าโฆษณาทุกครั้งที่มีคนเพิ่มเพื่อนบน LINE Official Account เหมาะกับแคมเปญเพิ่มเพื่อน ที่ร้านค้าต้องการให้มีคนเข้ามาติดตามและเป็นเพื่อนใน LINE OA เพิ่มมากขึ้น ซึ่งยิ่งมีเพื่อนมากเท่าไร ก็จะยิ่งเพิ่มจำนวนฐานลูกค้า และมีโอกาสปิดการขายได้มากเท่านั้น ซึ่งการจ่ายเงินค่าโฆษณาแบบนี้ มีเฉพาะโฆษณาในไลน์เท่านั้น
Cost Per Video View (CPV)
คิดเงินจากจำนวนครั้งที่มีการชมวิดีโอ เหมาะกับแบรนด์ที่ทำวิดีโอโฆษณาเพื่อแนะนำแบรนด์หรือสินค้า
Cost Per Action (CPA)
เหมาะแก่การโฆษณาเพื่อสร้าง Conversion โดยจะคิดค่าโฆษณาก็ต่อเมื่อกลุ่มเป้าหมายมี Action บนเว็บไซต์ เช่น การสั่งซื้อสินค้า ลงทะเบียน ดาวน์โหลดไฟล์ สมัครสมาชิก และอื่น ๆ ที่นับเป็น Conversion
Cost Per Install (CPI)
เป็นการคิดเงินโฆษณาที่เหมาะสำหรับแอปพลิเคชันที่ต้องการยอดดาวน์โหลดจำนวนมาก โดยจะคิดเงินจากจำนวนครั้งที่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันนั่นเอง
การซื้อโฆษณาผ่าน LAP
การซื้อโฆษณาผ่าน LAP เราสามารถซื้อได้ด้วยตนเองกับซื้อผ่านเอเจนซี ซึ่งในบทความนี้เราจะขอกล่าวแต่การซื้อโฆษณาด้วยตัวเอง ซึ่งการโฆษณา LINE Ads Platform ราคาจะเท่าไร ก็ขึ้นอยู่กับการตั้งราคาของเรานั่นเอง โดยสามารถแบ่งการตั้งราคาเป็น 2 รูปแบบดังต่อไปนี้
ตั้งราคาเสนอด้วยตนเอง (Manual Bidding)
เหมาะแก่ผู้ที่ต้องการควบคุมค่าใช้จ่ายในแคมเปญที่ลงโฆษณา โดยเราสามารถกำหนดราคาได้ตามต้องการ โดยสามารถกำหนดราคาใน LINE Ads Platform จากที่ระบบแนะนำ ซึ่งจะทำให้กลุ่มเป้าหมายมองเห็นโฆษณาได้มากขึ้น กับอีกแบบคือ การลงงบประมาณตามข้อมูลเก่าที่ได้ผล ซึ่งเหมาะกับผู้ที่มีประสบการณ์ในการลงโฆษณามาก่อน
ตั้งราคาแบบอัตโนมัติ (Automatic Bidding)
เหมาะกับแคมเปญที่มุ่งไปที่เรื่องการวิเคราะห์และติดตามผลของการโฆษณา โดยระบบจะเลือกกลุ่มเป้าหมายและราคาที่เหมาะสมให้แก่แคมเปญของเรา โดยจะแบ่งเป็น 4 รูปแบบ คือ
- กำหนดลิมิตราคาเสนอ (Bid Amount Cap) เป็นการกำหนดราคาโฆษณาต่อครั้งสูงสุด โดยจะประมูลจากราคาที่ต่ำก่อน และค่อย ๆ เพิ่มขึ้น แต่จะไม่สูงเกินกว่าที่กำหนดเอาไว้ ข้อดีของรูปแบบนี้คือ มีราคาต่อผลลัพธ์ที่ต่ำ
- กำหนดลิมิตราคาต่อคอนเวอร์ชัน (Event Cost Cap) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบรรลุเป้าหมายทางการตลาด โฆษณาจะอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุด โดยระบบจะเสนอราคาที่สูงกว่าเล็กน้อย เพื่อให้ชนะการประมูล
- กำหนดเป้าหมายราคาต่อคอนเวอร์ชัน (Target Event Cost) เหมาะกับผู้ที่มีเป้าหมายชัดเจน โดยระบบจะทำการเสนอราคาที่สูงกว่าหรือต่ำกว่าราคาที่กำหนดไว้ แต่ใกล้เคียงกับราคา CPA ที่ตั้งไว้
- งบประมาณสูงสุดต่อวัน (No limit) ไม่กำหนดราคา CPA แต่จะกำหนดเป็นงบประมาณต่อวัน ระบบจะเน้นที่การประมูลราคาที่ต่ำสุด ไปจนถึงสูงสุด เพิ่มโอกาสการชนะ เหมาะกับแคมเปญเร่งรัดที่ต้องการผลและใช้งบประมาณให้ครบตามกำหนด
สำหรับมือใหม่ แนะนำให้ลองใช้การตั้งราคาแบบอัตโนมัติโดยกำหนดลิมิตราคาเสนอ และลิมิตราคาต่อคอนเวอร์ชันก่อน เพื่อศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคในระยะแรก และไม่ต้องใช้งบประมาณมากเกินไป นอกจากนี้ เราควรจะรู้ราคาประมูลเฉลี่ยของธุรกิจที่เราขายสินค้าและบริการ เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการชนะการประมูล
LINE Ads Platform ช่องทางการโฆษณาสินค้าราคาไม่แพง ที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าของเราได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ ยังสามารถเชื่อมต่อกับ LINE OA และ LINE SHOPPING เพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ซื้อและร้านค้า เพิ่มยอดขายปัง ๆ ได้ทุกวัน