รู้รึเปล่า วิธีดาวน์โหลดวิดีโอจาก Facebook ทำยังไง? แถมเคล็ดลับการทำวิดีโอคอนเทนต์แบบเริ่ดๆ

ในจังหวะนี้ หนึ่งในรูปแบบคอนเทนต์ที่แบรนด์ เจ้าของธุรกิจขายของออนไลน์ หรือร้านค้าโซเชียลต่างๆ ขาดไม่ได้เลยก็คือ “วิดีโอคอนเทนต์ (Video Content)” ซึ่งเป็นรูปแบบเนื้อหาที่ดึงดูดคนได้มากที่สุด เชื่อว่าหลายๆ คนที่เล่น Facebook ต่างก็ต้องมีบางจังหวะที่หลงไปกับวิดีโอคอนเทนต์ต่างๆ จนรู้ตัวอีกทีก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมงแล้วใช่ไหมครับ แต่บางครั้งวิดีโอที่อยากดูก็ดันหายไป หรืออยากจะเก็บวิดีโอไว้ศึกษาทำคอนเทนต์ของตัวเองต่อ แต่ไม่รู้ว่าต้องโหลดยังไง

วันนี้ LINE SHOPPING จะมาบอกวิธีดาวน์โหลดวิดีโอจาก Facebook แบบง่ายๆ ในไม่กี่ขั้นตอน พร้อมแนะนำพ่อค้าแม่ขาย เกี่ยวกับเคล็ด (ไม่) ลับในการทำวิดีโอคอนเทนต์ให้เริ่ดๆ ด้วย

วิธีดาวน์โหลดวิดีโอจาก Facebook แบบง่ายๆ

สำหรับวิธีการดาวน์โหลดวิดีโอจาก Facebook นั้น เรียกได้ว่าทำง่ายมากๆ ทั้งบนคอมพิวเตอร์และบนสมาร์ทโฟน ซึ่งวิธีการทำก็คล้ายๆ กันเลยครับ ดังนี้

ขั้นตอนการดาวน์โหลดวิดีโอจาก Facebook บนคอมพิวเตอร์

1. อันดับแรก ให้เปิดวิดีโอที่ต้องการดาวน์โหลดเอาไว้ 

2. ไปที่ช่อง URL ด้านบนของเบราว์เซอร์ คลิกที่ลิงก์แล้วเปลี่ยน www เป็น mbasic แทน (ตัวอย่างเช่น www.facebook.com ให้เปลี่ยนเป็น mbasic.facebook.com) แล้วกด Enter ไปเลย

3. เว็บไซต์ที่มีแต่โพสต์วิดีโอนั้นๆ จะปรากฏขึ้นมา ให้กดไปที่วิดีโออีกหนึ่งครั้ง แล้วจะมีเหลือเพียงหน้าวิดีโออย่างเดียว คลิกขวาและ Save Video As ได้เลย

เพียงเท่านี้ก็เซฟวิดีโอจาก Facebook มาไว้ในเครื่องได้แล้วครับ ส่วนท่านใดที่ต้องการจะดาวน์โหลดวิดีโอไว้ในสมาร์ทโฟนก็สามารถทำได้ง่ายๆ เช่นกัน

ขั้นตอนการดาวน์โหลดวิดีโอจาก Facebook บนสมาร์ทโฟน

1. ขั้นตอนแรกนั้นไม่ต่างกันมาก ให้เปิดวิดีโอที่ต้องการดาวน์โหลดเอาไว้บนแอปฯ Facebook

2. ให้กดที่จุดตัวเลือกหรือที่เป็น “จุดสามจุด” และเลือก Copy Link 

3. นำลิงก์นี้ไปวางบนเบราว์เซอร์ เช่น Google Chrome หรือ Safari จากนั้นให้เปลี่ยน URL จาก www เป็น mbasic เหมือนเดิม

4. เว็บไซต์ที่มีแต่โพสต์วิดีโอนั้นๆ จะปรากฏขึ้นมา ให้กดค้างที่วิดีโอ จากนั้นจะมีข้อความเด้งขึ้นมาว่าให้ดาวน์โหลดวิดีโอ

จะเห็นได้ว่าวิธีดาวน์โหลดวิดีโอจาก Facebook ทั้งบนคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟนนั้น สามารถทำได้ง่ายๆ ภายในไม่กี่ขั้นตอน ไม่ต้องโหลดแอปหรือโปรแกรมอะไรเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม แม้วิธีนี้จะสะดวกและง่ายที่สุด แต่ความชัดของวิดีโอที่ดาวน์โหลดมานั้นจะอยู่ในระดับ SD (Standard Definition) เท่านั้นครับ ภาพจึงอาจดูแตกๆ หรือเบลอๆ ไปบ้างนั่นเอง

หากต้องการความคมชัดที่มากขึ้น ขอแนะนำให้นำลิงก์วิดีโอไปโหลดตามเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้แทน อาทิ HashtagForLife เป็นต้น

สร้างวิดีโอคอนเทนต์บน Facebook แบบเริ่ดๆ

เมื่อทราบถึงวิธีดาวน์โหลดวิดีโอจาก Facebook ไปแล้ว ในด้านของ “วิดีโอคอนเทนต์” นั้น เป็นรูปแบบคอนเทนต์ที่น่าดึงดูดต่อผู้ใช้งานโซเชียลเป็นอย่างมาก ซึ่งจากสถิติของ We Are Social ในปีที่ผ่านมา พบว่า 99% ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตอายุระหว่าง 16 - 64 ปี นั้นดูวิดีโอออนไลน์ นอกจากนี้ยังมีผู้ใช้งาน Facebook ชาวไทยมากกว่า 51 ล้านบัญชีอีกด้วย

ทั้งความนิยมของกลุ่มผู้ใช้งานในวิดีโอคอนเทนต์และจำนวนผู้ใช้งาน Facebook ที่มีมากเช่นนี้ พ่อค้าแม่ขายและผู้เริ่มทำธุรกิจจึงไม่ควรพลาดที่จะหันมาผลิตวิดีโอ เพื่อให้สามารถเข้าถึงลูกค้า สร้างปฏิสัมพันธ์ และเพิ่มยอดขายให้มากกว่าเดิม แล้วจะต้องเริ่มทำยังไง มาดูกันเลยครับ

• สำรวจความถนัด เน้นจุดเด่นแบรนด์

สำหรับพ่อค้าแม่ขายที่เพิ่งเริ่มทำธุรกิจ ให้เริ่มจากเนื้อหาที่เรามีความเชี่ยวชาญหรือเป็นสิ่งที่ถนัดก่อน เพราะการทำคอนเทนต์จากสิ่งที่เชี่ยวชาญจะช่วยให้มีแรงบันดาลใจในการคิดไอเดียใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ เอกลักษณ์ของแบรนด์ก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัย ที่จะทำให้ร้านค้าออนไลน์ดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ดังนั้นการดึงเอกลักษณ์ของแบรนด์จึงเป็นข้อสำคัญ เช่น การเล่าเรื่องราวที่ไม่ซ้ำใครผ่านวิดีโอ ภาพเบื้องหลัง หรือนำเสนอเนื้อหาต่างๆ ในสไตล์ของแบรนด์ เป็นต้น

• กำหนดเป้าหมายของวิดีโอให้ชัดเจน

การทำวิดีโอคอนเทนต์ก็เป็นการตลาดรูปแบบหนึ่ง ควรตั้งเป้าหมายของวิดีโอนั้นๆ ไว้อย่างชัดเจนก่อนเริ่มลงมือทำ เช่น เพื่อกระตุ้นการขาย เพื่อประชาสัมพันธ์แบรนด์ เพื่อแนะนำสินค้าใหม่ๆ ฯลฯ สาเหตุที่ต้องเป้าหมายเหล่านี้ ก็เพราะเป็นการทำให้ผู้ชมหรือลูกค้าสามารถเข้าใจสิ่งที่แบรนด์ต้องการจะบอกได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างความเชื่อใจในแบรนด์ และยอดขายที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง 

• สร้างความน่าดึงดูดให้กับวิดีโอคอนเทนต์

แม้เนื้อหาในของวิดีโอจะมีคุณภาพแค่ไหน แต่ถ้าไม่สามารถเรียกความสนใจของผู้ใช้งานได้ก็ไม่มีประโยชน์ พ่อค้าแม่ขายจึงควรคำนึงถึงการเขียน Caption ของวิดีโอ โดยอาจจะต้องเลือกใช้ Keyword ที่ผู้คนนิยมใช้ค้นหา หรือเขียนประโยคโดนๆ ที่กำลังเป็นกระแส ส่วนเนื้อหาของวิดีโอ ในช่วง 3 - 5 วินาทีแรก ต้องมีสิ่งที่โน้มน้าวให้ลูกค้าดูต่อได้ เช่น Highlight ของวิดีโอ หรือบอกว่ามีโปรโมชันท้ายคลิปวิดีโอ เป็นต้น

• คอนเทนต์และแพลตฟอร์มต้องสอดคล้องกัน

วิดีโอคอนเทนต์ที่ผลิตออกมานั้นจำเป็นต้องเข้ากับแพลตฟอร์มและกลุ่มผู้ใช้งานด้วย หากวิดีโอมีความยาวเพียงไม่กี่วินาที ก็อาจเหมาะกับ TikTok มากกว่า สำหรับ Facebook นั้น วิดีโอก็ควรมีความยาวระหว่าง 20 - 90 วินาที จึงจะสามารถเรียก Engagement ได้มากที่สุดจากกลุ่ม Gen Z ที่มีพฤติกรรมชอบวิดีโอสั้นๆ มากกว่า นอกจากนี้ก็ควรคำนึงถึงเนื้อหาของวิดีโอให้ดีด้วย ว่าตรงกับความชอบหรือความสนใจของกลุ่มเป้าหมายที่แบรนด์เล็งเอาไว้หรือเปล่า

นอกจากข้อแนะนำที่เอามาฝากข้างต้นแล้ว ต้องขอเน้นว่าควรผลิตคอนเทนต์อย่าง “สม่ำเสมอ” เพื่อเป็นการอัปเดตแบรนด์ให้ตามทันเทรนด์ต่างๆ ให้ลูกค้ารู้ว่าธุรกิจยังคงดำเนินอยู่ คอยติดตามผลเสมอและนำคำตอบรับที่ได้ไปปรับปรุงต่อในอนาคต

เมื่อได้ทราบถึงวิธีดาวน์โหลดวิดีโอจาก Facebook และการเริ่มทำวิดีโอคอนเทนต์เบื้องต้นไปแล้ว ก็ต้องมีแพลตฟอร์มที่ช่วยให้การขายของออนไลน์ราบรื่น อย่าง LINE SHOPPING ที่มาพร้อมกับเครื่องมือช่วยบริหารร้านค้าแบบครบวงจรอย่าง “MyShop” ด้วยฟีเจอร์ต่างๆ อย่างเช่น ระบบนับสต็อกสินค้าแบบ Real Time ตัดสินค้าตามเวลาจริง, ระบบ Flex Message ที่คอยตอบรับคำสั่งซื้อลูกค้าแบบอัตโนมัติ, มี Storefront สร้างเว็บขายของออนไลน์ฟรีเป็นของตัวเอง สามารถนำเว็บขายของฟรีนี้ไปแชร์ยังโซเชียลมีเดียต่างๆ เพิ่มช่องทางในการขาย สามารถติดตามสถานะออเดอร์ตั้งแต่ต้นจนจบ และรองรับการชำระเงินได้หลายช่องทาง ไม่ว่าจะโอนเงิน จ่ายผ่านบัตรเครดิต เก็บเงินปลายทาง หรือจ่ายผ่าน Rabbit LINE Pay โดยไม่ต้องสลับแอปฯ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าออนไลน์แบบไหนก็เริ่มทำธุรกิจและเพิ่มยอดขายบนแพลตฟอร์ม LINE SHOPPING ได้ง่ายๆ

เพียงมี LINE OA สามารถเปิดบัญชี MyShop ได้ฟรี ที่ lineshoppingseller.com