- แนวโน้มธุรกิจในอนาคตปี 65 ที่ต้องจับตามอง เพราะรู้ก่อน รวยก่อน!
แนวโน้มธุรกิจในอนาคตปี 65 ที่ต้องจับตามอง เพราะรู้ก่อน รวยก่อน!
เชื่อว่าหลายๆ คนที่อยากเริ่มทำธุรกิจอะไรสักอย่าง ล้วนแต่ต้องการเป็นผู้นำทางด้านธุรกิจกันทั้งนั้น เพราะเมื่อลงมือทำธุรกิจประเภทใหม่ๆ ก่อนคนอื่น ก็มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้มาก บางคนอาจกลายเป็นเจ้าของธุรกิจยักษ์ใหญ่เลยทีเดียว ซึ่งกว่าจะไปถึงจุดนั้นได้ก็ลองผิดลองถูก แต่จะลองทำอย่างไรดีนะ เพราะไม่ทางรู้ถึงอนาคตเหล่านั้นได้เลย ดังนั้น LINE SHOPPING จะขอพาทุกท่านมารู้จักธุรกิจในอนาคตที่มีแนวโน้มว่าจะมาแรง ไม่ว่าจะเป็นในปี 2022 นี้หรือจะเป็นอีก 10 ข้างหน้า จะมีธุรกิจแบบไหนบ้างมาทราบพร้อมกันเลยครับ
1. Circular Economy
แนวคิดธุรกิจในอนาคต 2030 จะกลายเป็น Circular Economy หรือเศรษฐกิจหมุนเวียนแบบ 100% กล่าวง่ายๆ คือผลิตภัณฑ์จะต้องต่อยอดไปใช้สอยได้หรือมีการนำวัตถุดิบกลับมาใช้ใหม่ได้อีกครั้ง เนื่องจากแนวคิดเดิมของธุรกิจเป็นแบบ Linear Economy คือการผลิตสินค้า นำมาใช้งาน และทิ้งไป ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาทางสิ่งแวดล้อมอย่างมาก เพราะทรัพยากรถูกนำมาใช้อย่างไม่รู้คุณค่าและทำให้เกิดปัญหากระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง แนวคิด Circular Economy จึงเป็นการมุ่งหาประโยชน์สูงสุดของทรัพยากรนั้นๆ หลายท่านอาจจะเคยได้เห็นการนำขยะมารีไซเคิลเป็นสินค้าใหม่ๆ เช่น ร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์บางแห่งก็เริ่มนำขวดน้ำพลาสติกมารีไซเคิลเพื่อทำเป็นเส้นใยในการทอ เพื่อเป็นการใช้ทรัพยากรให้เกิดคุณค่ามากที่สุด
2. Virtual Reality
เทคโนโลยี Virtual Reality หรือ VR ที่หลายคนให้ความสนใจถือเป็นอีกนวัตกรรมสำหรับธุรกิจในอนาคตที่หลายคนจับตามอง อย่างที่ได้เคยกล่าวถึงในบทความก่อนหน้านี้ว่า VR และ AR (Augmented Reality) ได้เริ่มนำมาปรับใช้ในโลกแฟชั่นมากขึ้น มีการสั่งซื้อเสื้อผ้าแบบ VR เพื่อใช้อัปลงสื่อโซเชียลมีเดียหรือการใช้เทคโนโลยี AR ในการทดลองแต่งหน้า นอกจากนี้ยังมีความน่าสนใจคือการเกิด VR Idol และ VR Influencer ขึ้น เพื่อให้แฟนคลับได้ติดตาม จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเทคโนโลยี VR จะเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมากสำหรับธุรกิจในอนาคต
3. Hybrid Space
การเป็นพื้นที่ไฮบริดระหว่างพื้นที่จริงและพื้นที่เสมือนจริงนั่นเริ่มได้รับความนิยมอย่างมากนับตั้งแต่มีโควิด-19 ผู้บริโภคหลายคนก็เริ่มคุ้นเคยกับการใช้งานพื้นที่เสมือนจริงมากขึ้น อย่างไรก็ตามธรรมชาติของมนุษย์ก็ยังต้องการพื้นที่จริงเพื่อใช้งาน ดังนั้นไม่ว่าธุรกิจจะมีหน้าร้านหรือบนแพลตฟอร์มออนไลน์จะต้องมีพื้นที่รองรับความต้องการของผู้บริโภคแบบรอบด้าน เพราะจะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้โดยง่าย ซึ่งบางคนอาจคุ้นเคยกับ “Omni Channel” คือการที่ร้านค้าให้บริการทั้งช่องทางออนไลน์และหน้าร้าน เช่น หากลูกค้าต้องการจะซื้อหนังสือเล่มหนึ่ง ก็อาจติดต่อไปทาง LINE OA ของร้านหนังสือเพื่อสอบถามรายละเอียดและทำการจองหนังสือเล่มนั้นไว้ เมื่อติดต่อเรียบร้อยก็ไปรับหนังสือเล่มนั้นตามนัดและชำระเงิน หรือในทางกลับกันหากลูกค้าไปดูสินค้าที่หน้าร้านและก็อาจจะมาเช็กผ่านช่องทางแอปขายของออนไลน์แล้วกดสั่งซื้อ เพื่อสามารถตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างครอบคลุม
4. Contactless Economy
อีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงหลังยุคโควิด-19 คือ การที่ธุรกิจหลายแห่งเริ่มปรับตัวเข้าสู่เศรษฐกิจแบบไร้สัมผัสมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะมีผลเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโรคต่างๆ ได้แล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งวิธีการที่ลดต้นทุนผ่านการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย ซึ่งแบรนด์ใหญ่ๆ ก็เริ่มปรับใช้กันมากขึ้น จากเดิมที่จะต้องมีพนักงานแคชเชียร์เพื่อคิดค่าสินค้าเปิดเคาน์เตอร์ในลูกค้าคิดเงินและจ่ายเงินผ่านเครื่องได้ทันที รวมถึงบางห้างสรรพสินค้าได้พัฒนาให้ง่ายขึ้น เพียงแค่นำของใส่รถเข็นก็จะคำนวณเงินทันที ไม่จำเป็นจะต้องหยิบของขึ้นมาสแกนจ่ายเลย
5. Lazy Economy
สำหรับ Lazy Economy คือการคิดเศรษฐกิจที่ตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภค โดยอำนวยความสะดวกต่างๆ ตอบโจทย์ความต้องการโดยไม่ต้องลงมือทำให้เป็นเรื่องง่ายขึ้น เช่น คนที่ไม่อยากออกกำลังกายเพราะขี้เกียจแต่ก็อยากสุขภาพดี ทำให้ธุรกิจต่างๆ ปรับวิธีคิดเพื่อให้ตอบรับ อาจเป็นการออกอาหารเสริมเพื่อเพิ่มการเผาผลาญ การออกคอร์สเสริมความงามที่ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญได้หรือเสริมสร้างกล้ามเนื้อหน้าท้องเพื่อใช้เครื่องมือต่างๆ โดยไม่ต้องออกกำลังกาย บางธุรกิจก็อาจจะตอบสนองความต้องการอื่นๆ เช่น บริการสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ บริการทำความสะอาดบ้าน บริการช้อปปิ้ง บริการรับหิ้วของหรือพรีออเดอร์ ฯลฯ หรือแม้แต่บริการสำหรับผู้สูงอายุเพื่อดูแลความต้องการต่างๆ ก็ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจแบบนี้อีกด้วย
จาก 5 ธุรกิจในอนาคตที่ได้แนะนำไป จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่าเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทมากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นหลายธุรกิจควรรีบปรับตัวตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อเป็นผู้นำทางธุรกิจ อย่างที่กล่าวไปว่าถ้ารู้ก่อน ลงมือก่อน ก็จะรวยก่อนนั่นเอง และเพื่อสานฝันธุรกิจให้สำเร็จ LINE SHOPPING ขอเป็นหนึ่งในการประสบความสำเร็จนี้ เพราะมีตัวช่วยที่ช่วยในการออกออเดอร์อัตโนมัติ ติดตามสถานะออเดอร์เหล่านั้น รองรับการชำระเงินหลากหลายช่องทางไม่ว่าจะเป็นโอนเงิน บัตรเครดิต Rabbit LINE Pay หรือรับชำระเงินปลาย การนับสต็อกได้แบบเรียลไทม์ รวมถึงยังเปิดใช้งาน Storefront หรือเว็บขายของออนไลน์ของร้าน ที่สามารถนำลิงก์ไปแชร์ตามโซเชียลต่างๆ ได้อย่างสะดวก