3 วิธีเพิ่มยอดขายใน Marketplace ผลลัพธ์สุดปัง แต่น้อยคนจะรู้

เพราะทุกการค้าขายจำเป็นต้องมี “ที่ทาง” เสมอ ซึ่งในสมัยก่อน ที่ทางในการค้าขายอาจอยู่ในรูปแบบของหน้าร้าน ตลาด หรือห้างสรรพสินค้า แต่ในสมัยนี้ ธุรกิจมากมายได้เริ่มปรับเปลี่ยน “ที่ทาง” ไปอยู่ในแพลตฟอร์มออนไลน์ หรือ Marketplace ต่าง ๆ เพื่อลดต้นทุนหน้าร้านไปพร้อมกับเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าได้ทุกที่ทุกเวลา

อย่างไรก็ดี ด้วยความสะดวกในส่วนนี้จึงยากที่จะปฏิเสธว่า Marketplace ได้กลายเป็นอีกหนึ่งสนามธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงเช่นกัน แล้วธุรกิจควรจะมีวิธีเพิ่มยอดขายใน Marketplace อย่างไรให้เหมาะสม ตอบโจทย์ความต้องการได้ทั้งเจ้าของธุรกิจและผู้ซื้อ ลองมาทำความรู้จักกับ 3 ไอเดียการเพิ่มยอดขายบน Marketplace ที่นำมาฝากในวันนี้กัน

วิธีที่ 1: เลือกสินค้าเข้ามาขายอย่างมี “หลักการ” และ “อยู่บนความถูกต้อง”

วิธีเพิ่มยอดขายใน Marketplace เป็นเรื่องสำคัญ แต่การเลือกสินค้ามาขายใน Marketplace เป็นเรื่องสำคัญยิ่งกว่า เพราะต่อให้ธุรกิจมีแผนการตลาดที่ครอบคลุมและตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายมากเพียงใด แต่หากเลือกสินค้าที่เจ้าของธุรกิจไม่มีความรู้เกี่ยวกับสินค้าที่ดีพอ หรือเป็นสินค้าที่เน้นราคาถูก แต่ไม่ได้ดูคุณภาพ โอกาสในการสร้างยอดขายในระยะยาวก็เป็นเรื่องยากเช่นเดียวกัน

ดังนั้น ก่อนที่จะไปทำความรู้จักถึงวิธีเพิ่มยอดขายใน Marketplace ลองสละเวลาอีกสักนิดมาพิจารณาเลือกสินค้าเข้า Marketplace ให้เหมาะสมกันดูก่อน ซึ่งเจ้าของธุรกิจทุกคนสามารถเริ่มต้นง่าย ๆ ตามขั้นตอน ดังนี้

1. สำรวจทุกความเป็นไปได้

เมื่อแรกเริ่มทำธุรกิจ เจ้าของธุรกิจหลายคนอาจมาพร้อมคำถามว่า “จะขายอะไรดีถึงจะทำให้ธุรกิจอยู่รอดไปได้” ซึ่งคำตอบที่ใช่ของคำถามนี้จะซ่อนอยู่ในกระบวนการที่เรียกว่า “การสำรวจตลาด” ควบคู่ไปกับ “การสำรวจตัวเอง” 

ในขั้นแรก เจ้าของธุรกิจควรจะมองหาสินค้าที่อยู่ในความสนใจและมีความรู้มากเพียงพอที่จะนำมาขาย เพราะหากเลือกเฉพาะแต่สินค้าที่มีราคาถูกมาขายเพียงอย่างเดียว จริงอยู่ว่าอาจเพิ่มยอดขายได้ดีในวันนี้ แต่ในวันข้างหน้าก็จะมีโอกาสโดนตัดราคาจากธุรกิจอื่น ๆ ที่สามารถนำของเข้ามาขายได้ในต้นทุนที่ถูกกว่า แต่หากเจ้าของธุรกิจโฟกัสอยู่ที่คุณภาพของสินค้าและเลือกขายราคาที่สมเหตุสมผล หรืออาจมีโปรโมชันมากระตุ้นยอดขายเป็นครั้งคราว โอกาสที่ธุรกิจจะยืนยาวในสนามการค้าอย่าง Marketplace ได้ก็จะมีสูงเช่นกัน 

และเมื่อสำรวจความสนใจ ความชอบ และความถนัดของตัวเองเพื่อเลือกสินค้าเข้ามาขายแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ การสำรวจความเป็นไปได้ของตลาดว่า สินค้าที่สนใจและมีความรู้มากเพียงพอนี้จะสามารถนำมาขายใน Marketplace ไหน กลุ่มเป้าหมายใด รายได้ประมาณเท่าไหร่ มีความสนใจด้านไหน เน้นการขายให้เพศหญิง ชาย หรือคนทุกเพศทุกวัยกันแน่ ซึ่งการสำรวจตลาดนี้อาจใช้เวลาค่อนข้างนาน แต่มั่นใจได้เลยว่าผลลัพธ์คุ้มค่าแก่ความพยายามแน่นอน

2. อย่าตัดราคา

ในระหว่างการสำรวจกลุ่มเป้าหมายในตลาด แน่นอนว่าเจ้าของธุรกิจอาจพบเจอกับธุรกิจคู่แข่งที่มีการกำหนดราคาที่หลากหลาย แต่ไม่ว่าจะพบเจอกับราคามากน้อยแค่ไหน เจ้าของธุรกิจก็ไม่ควรตัดราคาขายกับธุรกิจอื่นเพื่อเพิ่มยอดขายใน Marketplace ของตัวเอง เพราะการทำเช่นนี้ถือได้ว่าเป็นการเลื่อยขาเก้าอี้ตัวเองแบบหนึ่ง หากในวันใดเกิดธุรกิจอื่นที่สามารถรับต้นทุนได้ต่ำกว่า โอกาสที่เราจะขาดทุน ยอมลดราคาสินค้าให้ถูกลง หรือต้องลดคุณภาพสินค้าลงเพื่อรักษาราคาเดิมเอาไว้ก็จะยิ่งมีสูงขึ้น ทำให้เสี่ยงต่อการเสียทั้งกำไรและลูกค้าไปอย่างน่าเสียดาย

วิธีที่ 2: เลือก Keyword สำหรับสินค้าให้เหมาะสม

การเพิ่มยอดขายใน Marketplace บนโลกออนไลน์จำเป็นที่ต้องให้ความสำคัญกับ “Keyword” เป็นอย่างมาก เพราะหากเลือก Keyword สำหรับสินค้าไม่เหมาะสม มีการค้นหาน้อย หรือเป็นคำที่เราคุ้นชินแต่คนส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้ โอกาสในการสร้างยอดขายก็จะมีน้อยลงไปด้วย 

ดังนั้น เพื่ออุดช่องโหว่ในส่วนนี้ให้ได้มากที่สุด เจ้าของธุรกิจอาจเลือก Keyword ด้วยหลักการพิจารณา ดังนี้

1. มองหา Keyword ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโดยตรง เพราะการหว่านแหเลือก Keyword ที่ไม่ตรงกับสินค้า แต่มียอดค้นหาสูงอาจทำให้ได้ลูกค้าไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย แถมยังเป็นการผิดกฎ Marketplace หลาย ๆ ที่จนเสี่ยงต่อการโดนแบนอีกด้วย
2. ดูปริมาณการค้นหาในแต่ละเดือนผ่านเครื่องมือต่าง ๆ เช่น KW Finder, Google Keyword Planner หรือหาเครื่องมือที่ช่วยหา Keyword ที่ Marketplace แต่ละแห่งจัดเตรียมเอาไว้ จากนั้นเลือก Keyword ที่มีการค้นหาสูงไปจนถึงปานกลางเพื่อบริหารการแข่งขันในสนามธุรกิจได้อย่างเหมาะสม
3. เลือก High Commercial Intent Keyword เช่น มีการแนบรายละเอียดสินค้าชัดเจน หรืออาจมีการใส่ Call to Action เพื่อเรียกลูกค้าอย่าง “พร้อมส่ง” หรือ “ราคารวมส่ง”

วิธีที่ 3: มองหาตัวช่วยที่ตอบโจทย์

หลังจากมีสินค้าที่เหมาะสม พร้อมเลือก Keyword ที่อธิบายสินค้าได้อย่างตรงจุดและสามารถแข่งขันได้แล้ว ขั้นตอนสุดท้ายที่ช่วยเพิ่มยอดขายใน Marketplace ได้ คือ การใช้เครื่องมือเสริมให้เข้ากับ Marketplace แต่ละประเภท ทั้งนี้เพื่อเป็นการดูแลลูกค้าและเพิ่มยอดขายให้แก่ธุรกิจนั่นเอง

หากยังนึกภาพไม่ออกว่าแต่ละ Marketplace มีเครื่องมืออะไรที่สามารถใช้งานได้บ้าง ลองนึกถึงแพลตฟอร์มใกล้ตัวอย่าง LINE ที่ธุรกิจสามารถเพิ่มทั้งระบบ CRM เพื่อเก็บข้อมูลลูกค้า พฤติกรรมการช็อป ตลอดจนวางแผนการตลาดและไอเดียเพิ่มยอดขายได้ 

นอกจากนี้ LINE ยังมาพร้อม LINE OA ที่ไม่เพียงแต่จะเพิ่มความน่าเชื่อถือ แต่ยังสามารถเชื่อมต่อเข้ากับ LINE SHOPPING เพื่อให้ลูกค้าสามารถช็อปได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถติดตั้ง Chat Bot LINE OA เพื่อดูแลทุกความต้องการของลูกค้าได้อย่างครอบคลุม ทำให้ได้รับประสบการณ์การช็อปที่ดีและมีโอกาสกลับมาซื้อซ้ำ

จะเห็นได้ว่า การเพิ่มยอดขายใน Marketplace นั้นไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด เพียงจัดสรรเวลามาเพื่อเรียนรู้และทำความเข้าใจกับระบบวันละนิดก็สามารถสร้างยอดขายใน Marketplace ได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นกัน สำหรับธุรกิจไหนที่ยังคงมองหา Marketplace ที่ตอบโจทย์ความต้องการและเต็มไปด้วยไอเดียการเพิ่มยอดขาย มาเปิดโอกาสสร้างยอดขายใน Marketplace ที่เข้าถึงลูกค้ามากกว่า 50 ล้านคน ผ่าน LINE SHOPPING วันนี้ รองรับทุกฟีเจอร์ทางการตลาดเพื่อยอดขายที่เพิ่มขึ้น พร้อมลดต้นทุนด้วยค่าธรรมเนียม 0 บาทตลอดการใช้งาน