- แชร์เคล็ดลับ! 5 วิธีเขียนแค็ปชันอย่างไร ให้ขายของออนไลน์ปัง

แชร์เคล็ดลับ! 5 วิธีเขียนแค็ปชันอย่างไร ให้ขายของออนไลน์ปัง
วิธีเขียนแค็ปชันโพสต์ขายของออนไลน์ ให้ลูกค้าซื้อโดยไม่รู้ตัว!
ในปัจจุบันนี้ ร้านค้าต่าง ๆ เริ่มหันมาเปิดร้านทางออนไลน์กันมากขึ้น ทั้งในโซเชียลมีเดีย หรือเว็บไซต์ E-Commerce เพื่อช่วยกระตุ้นยอดขายอีกช่องทางหนึ่ง รวมถึงยังสามารถทำให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้รู้จักสินค้าของเรามากขึ้น
แต่การจะทำให้ช่องทางออนไลน์ของคุณปังนั้น นอกจากงานหลังบ้านที่จะต้องบริการอย่างรวดเร็วแล้ว เรื่องของการเขียน “แค็ปชัน” ก็ถือเป็นหนึ่งวิธีโพสต์ขายของที่สำคัญเช่นกัน เพราะแค็ปชันที่โดนใจและสามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้ เสมือนเป็นตัวแทนคำพูดของแบรนด์ที่ใช้ในการสื่อสารและช่วยโน้มน้าวผู้บริโภคให้สนใจในสินค้าหรือบริการนั่นเอง
แต่แค็ปชันที่ดีในการโพสต์ขายของควรเป็นอย่างไร? ให้ลูกค้าไม่เลื่อนผ่าน แถมยังช่วยเพิ่มยอดไลก์ ยอดแชร์ รวมไปถึงยอดขายอีกด้วย! เราไปดูกันเลย
5 เคล็ด(ไม่)ลับ เพิ่มความน่าสนใจให้แค็ปชัน
1. การเริ่มพูดถึงปัญหา เพื่อโยงกลับมาที่ข้อดี
แน่นอนว่าถ้าหากคุณเริ่มพูดถึงปัญหา ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาด้านสุขภาพ การทำงาน หรือการใช้ชีวิตประจำวันของกลุ่มเป้าหมาย จะเป็นอีกหนึ่งเทคนิคการโพสต์ขายของที่ดี โดยจะช่วยดึงดูดความสนใจจากลูกค้า ว่าพวกเขาอาจจะกำลังประสบปัญหาเหล่านั้นอยู่ แล้วโยงกลับมาที่ข้อดีหรือสรรพคุณของสินค้าคุณ ที่จะช่วยเป็นวิธีหรือทางลัดไว ๆ ในการแก้ปัญหาเหล่านั้นได้ เช่น “มีปัญหากลิ่นปาก ก็สร้างความไม่มั่นใจไปทั้งวัน” แล้วจากนั้นให้คุณเริ่มแนะนำด้วยผลิตภัณฑ์ของคุณ เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขาย เรียกความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายได้
2. เปิดข้อความด้วยการเล่นคำคล้องจอง
การเล่นคำคล้องจอง คำซ้ำ คำพ้องเสียง หรือการเล่นสัมผัส จะช่วยเพิ่มความไพเราะ และสร้างคำที่ติดหู ให้ลูกค้าจดจำแบรนด์และสินค้าของคุณได้ ซึ่งถือเป็นวิธีโพสต์ขายของที่นิยมในวงการโฆษณาขายสินค้าเป็นเวลานาน โดยคุณอาจจะตั้งรูปประโยคใหม่ให้เข้ากับสินค้านั้น ๆ เพื่อให้ติดหู จดจำง่าย เพิ่มความน่าสนใจให้แก่ตัวสินค้าของคุณได้มากขึ้น เช่น “ใช้แล้วดีจึงบอกต่อ ใช้แล้วหล่อเลือก (ชื่อผลิตภัณฑ์)” หรือ กีตาร์ (ชื่อยี่ห้อ) แล้วตามด้วย “มอบความสุข ทุกเสียงเพลง” เป็นต้น
<H3>3. ใส่ตัวเลขเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ</H3>
การที่แค็ปชั่นของคุณมีแต่ตัวอักษร ก็อาจจะทำให้ผู้อ่านรู้สึกน่าเบื่อได้ อีกหนึ่งเทคนิคการโพสต์ขายของที่เราอยากแนะนำให้ไปลองทำกันดูง่าย ๆ นั่นคือการเพิ่มตัวเลขเข้าไป เช่น 6 คุณประโยชน์ดี ๆ จากชานมผสมผลไม้ ที่จะช่วยดึงดูดสายตาจากตัวหนังสือได้เป็นอย่างดี
<H3>4. กำหนด Call to Action ให้ชัดเจน</H3>
วิธีโพสต์ขายของด้วยการสร้าง Call to Action (CTA) ถือเป็นการช่วยกระตุ้นให้คนตัดสินใจคลิกเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง ไม่ว่าจะเป็น การสมัครสมาชิก การลงทะเบียน หรือกดสั่งซื้อสินค้า โดยองค์ประกอบสำคัญอยู่ที่การเขียนข้อความโฆษณา (Copywriting) ให้มีความสั้น กระชับ เข้าใจง่าย ตรงประเด็น และบอกกลุ่มเป้าหมายชัดเจนว่า สินค้าหรือบริการของคุณจะไปช่วยแก้ปัญหาอะไรให้นั่นเอง โดยสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ในการเขียนแค็ปชันคือการเข้าใจผู้รับสารอย่างดี ว่าผู้รับสารหรือกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นใคร และต้องการอะไร
<H3>5. ใส่ Hashtag ทำให้ค้นหาได้ง่ายขึ้น<H3>
การใส่ Hashtag จะเป็นการช่วยเชื่อมต่อคอนเทนต์ต่าง ๆ บนโซเชียลมีเดียในแต่ละหัวข้อ เหตุการณ์ หรือธีม ได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะทำให้ง่ายต่อการค้นหาโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนั้น โดย Hashtag แบ่งออกได้เป็น 5 ประเภท เรามาดูว่าแบบไหนที่จะช่วยเพิ่มการเข้าถึง มีประสิทธิภาพ และเหมาะกับแบรนด์คุณได้บ้าง
- Hashtag ของแบรนด์: สิ่งแรกที่สำคัญและเป็นพื้นฐานนั่นก็คือ การมี Hashtag แบรนด์เป็นของตัวเอง เพื่อให้เกิดความน่าจดจำ โดยไม่ควรยาวมาก และอาจเลือกใช้คำที่ลูกค้ามักจะค้นหาเกี่ยวกับแบรนด์คุณนั่นเอง
- Hashtag กลุ่ม/ชุมชน: การใส่ Hashtag ชุมชน จะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าตัวเองได้เป็นส่วนหนึ่ง และยังเป็นการสร้างความเชื่อถือให้แก่แบรนด์ได้อีกด้วย
- Hashtag แคมเปญ: เหมาะสำหรับแคมเปญการตลาดที่มีระยะเวลากำหนด เช่น คอลเลกชันเสื้อผ้ารับหน้าร้อน หรือ Hashtag สำหรับแคมเปญที่แบรนด์คุณทำร่วมกับแบรนด์พาร์ตเนอร์ เพื่อนำเสนอสินค้าใหม่ร่วมกัน
- Hashtag กระแสนิยม: เป็นการร่วมสนทนาใน Hashtag ที่กำลังโด่งดัง หรือไวรัลอยู่นั่นเอง โดยแบรนด์ของคุณสามารถร่วมสนุก ผ่านการคิดคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้อง หรือสามารถเชื่อมโยงเข้ากับสินค้าหรือแบรนด์คุณนั่นเอง
- Hashtag วันหยุด: การร่วมสนทนาใน Hashtag วันหยุดต่าง ๆ เช่น #สงกรานต์2565 หรือ #ปีใหม่2565 จะช่วยเพิ่มโอกาสให้คอนเทนต์ของคุณเข้าถึงได้มากขึ้น
<H2>เมื่อแค็ปชันปังแล้ว ให้ LINE SHOPPING ช่วยจัดการร้านค้าออนไลน์<H2>
ถึงแม้แค็ปชันจะปัง หรือมีเทคนิคการโพสต์ขายของที่โดนใจผู้อ่านมากแค่ไหน แต่ถ้าระบบจัดการร้านค้าของคุณยังไม่ตอบโจทย์ อาจเพิ่มความยุ่งยากให้กับการจัดการ หรือทำให้ลูกค้าสั่งซื้ออย่างไม่สะดวกได้ ระบบจัดการร้านค้าออนไลน์ของ MyShop จาก LINE SHOPPING พร้อมเสริมพลังด้านการตลาดแบบรู้ใจ เชื่อมต่อได้ทาง LINE OA รับรองว่าถึงกลุ่มเป้าหมาย แถมยังสร้างออร์เดอร์ จัดการสต๊อก เพิ่มส่วนลดให้ลูกค้าได้ง่าย ๆ หรือติดต่อกับลูกค้าสะดวกผ่านแชทได้ทันที
หากคุณกำลังมองหาแอปพลิเคชันร้านค้าออนไลน์ฟรีไม่เสียค่าธรรมเนียม สมัคร MyShop ได้ที่นี่