จับตาดูเทรนด์การตลาดออนไลน์ 2022 ต้องปรับตัวอย่างไรให้นำคู่แข่ง!

ค่านิยม พฤติกรรม ความสนใจ และเทคโนโลยี ล้วนเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงและเกิดขึ้นใหม่อยู่เสมอ ซึ่งสามารถสร้างได้ทั้งโอกาสและความท้าทายให้กับผู้เริ่มทำธุรกิจได้อย่างพร้อมกัน ในปี 2022 ที่ใกล้จะถึงนี้ พ่อค้าแม่ขายและผู้ประกอบธุรกิจออนไลน์จะปรับปรุงและพัฒนาตนเองอย่างไรเพื่อให้แข่งขันได้ในยุคดิจิทัลเช่นนี้ 

LINE SHOPPING ขอชวนเจ้าของธุรกิจทุกท่าน มารู้ถึงเทรนด์การตลาดออนไลน์ 2022 รูปแบบต่างๆ ที่น่าสนใจและจับตามอง เพื่อปรับตัวแซงหน้าคู่แข่ง

เทรนด์การตลาดออนไลน์ 2022 ต้องจับตามอง

มาอัปเดตเทรนด์การตลาดออนไลน์ เตรียมสร้างกลยุทธ์ เพิ่มยอดขายออนไลน์กันในปี 2022 นี้เลยครับ

1. Content Marketing อัปเกรดเป็น “Content Selling”

หากเคยติดตามบทความก่อนหน้าของ LINE SHOPPING อาจเคยเห็นคำแนะนำให้ทำ Content Marketing หรือการสร้างเนื้อหาเพื่อทำการตลาดและโปรโมทภาพลักษณ์ของแบรนด์ไปแล้ว แต่ในปีหน้านี้ “คอนเทนต์” จะมีความสำคัญมากขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งก็คือ “Content Selling” นั่นเอง 

แนวคิด Content Selling คือการสร้างเนื้อหา ที่สามารถ “ขาย” ได้ ไม่ว่าจะเป็นบล็อกบนเว็บไซต์ โพสต์บนโซเชียล รูปภาพหรือวิดีโอต่างๆ เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้า เนื่องจากผู้บริโภคในปัจจุบันนี้ให้ความสำคัญกับ เรื่องราวของแบรนด์หรือร้านขายของออนไลน์นั้นๆ มากขึ้น ซึ่งเมื่อมีคอนเทนต์ที่ทรงคุณภาพ ผู้บริโภคที่สนใจในเนื้อหาเหล่านั้นจะกลายมาเป็น “ลูกค้า” ได้ไม่ยากเลยครับ

ดังนั้นธุรกิจควรสร้างเนื้อหาที่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย มีความแปลกใหม่ น่าสนใจ เพื่อดึงดูดผู้คนให้เข้ามาช้อปปิ้งออนไลน์กันมากขึ้นกว่าเก่า

2. เทรนด์ Personalized Marketing สร้างความประทับใจแบบเฉพาะ

ทุกคนล้วนต้องการความใส่ใจจากคนรอบข้าง ลูกค้าก็ต้องการความเอาใจใส่จากแบรนด์เช่นกัน ท่านที่ศึกษาการตลาดเบื้องต้น อาจเห็นได้ว่า “Personalized Marketing” ที่เป็นเทรนด์มาได้ระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งเทรนด์ที่ว่านี้สามารถสร้างความพึงพอใจและความรู้สึกพิเศษให้แก่ผู้บริโภคได้รู้สึกว่าธุรกิจใส่ใจลูกค้าจริงๆ โดยจากสถิติของ Epsilon ในปี 2020 ได้ระบุว่า 80% ของผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าหรือบริการจากแบรนด์ที่ให้ประสบการณ์แบบเฉพาะบุคคลมากกว่าแบรนด์ทั่วไป และแนวโน้มดังกล่าวก็เหมือนจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย

ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างแพลตฟอร์ม CRM (Customer Relationship Management) หรือ CDP (Customer Data Platform) ธุรกิจสามารถเก็บข้อมูลพฤติกรรมและความสนใจของลูกค้าได้ดีกว่าเดิม จากนั้นก็สามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาทำการตลาดแบบเฉพาะเจาะจงได้ ยิ่งในปัจจุบันนี้มี AI หรือปัญญาประดิษฐ์คอยช่วยจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นระบบ ทำให้เทรนด์การทำ Personalized Marketing น่าลงทุนอย่างมาก เพื่อเป็นการชนะใจลูกค้าใหม่และรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้

3. การค้นหาสินค้าแบบ “Voice Search” นิยมมากกว่าเดิม

เทคโนโลยีการค้นหาด้วยเสียงหรือ Voice Search เป็นอีกหนึ่งวิธีการค้นหาสินค้าที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในต่างประเทศและเป็นเทรนด์ที่เริ่มเข้ามาในไทยแล้ว ไม่ว่าจะค้นหาผ่าน Google Assistant หรือ Siri บนสมาร์ทโฟน หรือ Smart Speaker อย่าง Amazon Alexa และ Google Nest เป็นต้น ธุรกิจออนไลน์มากมายได้เริ่มพัฒนาแพลตฟอร์มและเว็บไซต์ในสามารถรองรับการค้นหาผ่านเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าและเพิ่มยอดขาย อีกทั้งอาจจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อเทรนด์สินค้า 2022 ได้ด้วย สินค้าไหนบนร้านค้าอะไรที่ค้นหาได้ง่ายๆ ก็ย่อมทำกำไรและเรียกลูกค้าได้มากกว่า

4. ระบบ All-In-One

ความรวดเร็วและความสะดวกสบายของลูกค้า เป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้อย่างยิ่งในปัจจุบัน การ “ซื้อ-จ่าย-จบ” ในที่เดียวได้ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป การมีแพลตฟอร์มที่อำนวยความสะดวกครบครันจึงสามารถตอบโจทย์ด้านนี้ได้อย่างดี ตัวอย่างเช่น LINE SHOPPING ที่เป็น Social Commerce ฝังอยู่ในแอปพลิเคชัน LINE ที่ลูกค้าสามารถเข้ามาดูสินค้า พูดคุยกับร้านค้า จ่ายเงิน ได้ครบโดยไม่ต้องสลับไปแอปฯ อื่น เปิดโอกาสให้ร้านขายของออนไลน์บนแพลตฟอร์มสามารถเพิ่มยอดขายได้เป็นอย่างดี

5. VR และ AR โลกเสมือนจริงเชื่อมต่อผู้บริโภค

วิกฤตโควิด-19 และมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ได้กลายเป็นเหมือนเส้นทางให้ Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR) เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคมากขึ้น และอาจจะเป็นเมกะเทรนด์สำคัญในอนาคต ตัวอย่างเช่น อุตสาหกรรมเกมที่เริ่มจัดกิจกรรมต่างๆ ผ่าน VR มากขึ้น อย่าง Fortnite ที่มีการจัดคอนเสิร์ตในเกมโดยได้ศิลปินชื่อดังอย่าง Ariana Grande, Travis Scott และ BTS เข้ามาร่วมด้วย

ในอนาคตอันใกล้เราอาจจะได้เห็นเมนูอาหารผ่านระบบ AR ที่แสดงภาพอาหารแบบ 3 มิติได้จริงๆ หรือได้ทดลองใส่เสื้อผ้าและเครื่องประดับแบบไม่ต้องใส่ ผ่าน AR Mirror ก็เป็นได้ครับ ฉะนั้นเจ้าธุรกิจที่ต้องการจะต่อยอดธุรกิจให้ล้ำสมัยต้องเกาะเทนรด์นี้ให้แน่นๆ 

เห็นได้ว่าเทรนด์และเทคโนโลยีต่างเข้ามาเปลี่ยนแปลงการตลาดไปอย่างมากและจะมากขึ้นอีกเรื่อยๆ ในอนาคต ซึ่งขอแนะนำให้พ่อค้าแม่ขายทุกท่านติดตามเทรนด์การตลาดและเทรนด์สินค้า 2022 พร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อไม่พลาดโอกาสในการเพิ่มยอดขายสร้างกำไรได้อย่างยั่งยืนในภายภาคหน้า

ส่วนท่านใดที่กำลังวางแผนเริ่มทำธุรกิจออนไลน์ สามารถเข้ามาเปิดร้านกับ LINE SHOPPING มาพร้อมกับ “MyShop” เครื่องมือทันสมัย ตอบโจทย์ลูกค้าและร้านค้าในปี 2022 ด้วยฟีเจอร์ต่างๆ อย่างเช่น ระบบนับสต็อกสินค้าแบบ Real Time ตัดสินค้าตามเวลาจริง, ระบบ Flex Message ที่คอยตอบรับคำสั่งซื้อลูกค้าแบบอัตโนมัติ, สามารถติดตามสถานะออเดอร์ตั้งแต่ต้นจนจบ สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างเว็บขายของออนไลน์ฟรี ก็มีฟีเจอร์ Storefront ที่เหมือนได้เว็บขายของฟรีเป็นของตัวเอง รวมถึงยังนำลิงก์ไปแปะตามโซเชียลมีเดียต่างๆ เพิ่มโอกาสในการขาย และรองรับการชำระเงินได้หลายช่องทาง ไม่ว่าจะโอนเงิน จ่ายผ่านบัตรเครดิต หรือ Rabbit LINE Pay จะเป็นร้านค้าออนไลน์แบบไหนก็เริ่มทำธุรกิจบน LINE SHOPPING ได้ง่ายๆ

หากสนใจเปิดบัญชี MyShop สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ lineshoppingseller.com