- เปิดทฤษฎีการเพิ่มยอดขายผ่านหลักจิตวิทยา น่าสนใจน่าเอาไปใช้
เปิดทฤษฎีการเพิ่มยอดขายผ่านหลักจิตวิทยา น่าสนใจน่าเอาไปใช้
แน่นอนว่าในการขายของออนไลน์จะต้องมีการทำการตลาดและใช้กลยุทธ์ต่างๆ เพื่อเป็นการดึงดูดผู้บริโภคทั่วไปให้กลายมาเป็นลูกค้า แต่ท่ามกลางวิธีเพิ่มยอดขายให้ร้านค้าเหล่านี้ ยังมีอีกหนึ่งวิธีที่พ่อค้าแม่ขายอาจมองข้ามไป นั่นคือทฤษฎีการเพิ่มยอดขายผ่าน “หลักจิตวิทยา” หรือ Psychology นั่นเอง
ว่าแต่จะมีหลักจิตวิทยาแบบไหน ที่สามารถนำช่วยสนับสนุนผู้เริ่มทำธุรกิจ เพิ่มยอดขายและกำไรขึ้นได้อย่างไรบ้าง มาหาคำตอบไปพร้อมกับ LINE SHOPPING ในบทความนี้กันเลยครับ
1. Psychology of Happiness สร้างรสชาติของความสุข
ความสุขเป็นเรื่องทางจิตวิทยาที่เข้าใจได้ง่ายๆ เพราะเป็นภาวะทางอารมณ์ที่ทุกคนต่างเคยสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นเพราะได้กินของอร่อย ได้ฟังเรื่องตลก ได้ทำสิ่งที่ชอบ ฯลฯ แล้วรู้ไหมว่าเมื่อคนเรามีความสุข ร่างกายจะหลั่งสารโดพามีน (Dopamine) ออกมา ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ “สมองส่วนการให้รางวัล” หรือ Brain Reward System ที่เป็นตัวกระตุ้นให้คนเรารู้สึกดี
พ่อค้าแม่ขายในร้านค้าโซเชียลสามารถใช้ประโยชน์จากทฤษฎีการความสุขนี้ได้ โดยการกระตุ้นความสุขของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการที่ดี ให้คำปรึกษาแนะนำในสิ่งที่ตอบโจทย์ลูกค้า หรืออาจจะเป็นการทำเซอร์ไพรส์เล็กๆ อย่างการจับฉลากลุ้นรับรางวัลก็ทำได้เช่นกันครับ
2. Decoy Effect การตั้งราคาแบบหลอกล่อ
ทฤษฎีการเพิ่มยอดขายต่อมาที่น่าสนใจคือ “Decoy Effect” คือการโน้มน้าวลูกค้าให้ตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการด้วยราคาที่แตกต่างกัน โดยตัวอย่างที่เห็นได้ชัดและบ่อยมากๆ คือการเพิ่มตัวเลือกราคา เช่น เครื่องดื่มในแต่ละขนาด แก้วเล็กราคา 40 บาท แก้วกลางราคา 55 บาท แก้วใหญ่ราคา 60 บาท เชื่อว่าลูกค้าหลายคนมักจะเลือกซื้อแก้วใหญ่ เพราะมีราคาต่างเพียง 5 บาทเท่านั้นเอง แต่ได้เครื่องดื่มในปริมาณที่คุ้มค่ามากกว่า ส่วนท่านที่ขายของออนไลน์เอง ก็อาจปรับใช้วิธีการนี้โดยทำเป็นเซตสินค้า อาทิ เสื้อราคา 600 บาทกับกางเกงราคา 990 บาท แต่นำมาขายเป็นเซตคู่กันในราคา 1,290 บาท (จากราคาเต็ม 1,590 บาท) เป็นต้น
3. Tugging At Emotions ดึงอารมณ์ร่วม
การสร้างเรื่องราวของแบรนด์หรือสินค้ามีบทบาทสำคัญมากในยุคนี้ จึงทำให้เกิด Content Marketing ที่สามารถดึงดูดคนรุ่นใหม่ให้เข้ามาอุดหนุนร้านค้า เนื่องจากการมีเรื่องราวบางอย่างช่วยให้ผู้ชมหรือผู้บริโภคได้พัฒนาความผูกพันทางอารมณ์กับแบรนด์ แม้ว่าเรื่องราวนั้นๆ จะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับแบรนด์ก็ตาม เช่น การทำคอนเทนต์ให้ความรู้บนโซเชียล เขียนบล็อกเล่าถึงความเป็นมาของธุรกิจ หรือทำวิดีโอสนุกๆ สั้นๆ เพิ่มความอยากมีส่วนร่วมให้กับลูกค้า จนกลายเป็นการทำยอดขายในที่สุดครับ
4. Social Proof อิทธิพลทางสังคม
ใครๆ ก็ทำ เราก็ต้องทำตาม! Social Proof เป็นปรากฏการณ์ทางจิตวิทยาที่เมื่อมีหลายๆ คนทำบางอย่าง จะทำให้เรารู้สึกอยากทำตามด้วย เช่น เมื่อเพื่อนๆ ทั้งกลุ่มซื้อต้นไม้มาปลูก ก็อาจทำให้ท่านรู้สึกอยากปลูกต้นไม้ด้วยเช่นกัน หรือผู้ง่ายๆ ว่าต้องการเกาะกระแสนั่นเอง หลักจิตวิทยานี้ยิ่งสำคัญขึ้นไปอีกเมื่อสื่อโซเชียลกระตุ้นให้เกิดความรู้สึก FOMO (Fear of Missing Out) หรือกลัวว่าตัวเองจะตกเทรนด์นั่นเอง ปัจจุบันเมื่อลูกค้าต้องการซื้ออะไรสักอย่าง ก็มักจะเริ่มค้นหาข้อมูลต่างๆ ผ่านเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย ซึ่ง Social Proof อย่างสินค้าขึ้นเทรนด์หรือรีวิวจำนวนมากๆ จะเป็นปัจจัยที่ช่วยให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น ดังนั้นในการปรับใช้ทฤษฎีการเพิ่มยอดขายนี้ พ่อค้าแม่ขายควรจะหมั่นติดตามดูความคิดเห็นของผู้บริโภคหรือเทรนด์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับร้านของตัวเองอยู่เสมอ เพื่อหาวิธีการทำการตลาดที่จะช่วยเพิ่มยอดขายให้มากกว่าเดิมครับ
5. Illusion of Scarcity การตลาดแบบสินค้าขาดแคลน
แนวคิด Scarcity คือ เมื่อสินค้าหรือสิ่งของมีจำนวนจำกัด ความต้องการของผู้บริโภคจะเพิ่มมากขึ้น จึงไม่แปลกที่ร้านค้าโซเชียลต่างๆ มักใช้คำกระตุ้นการตัดสินใจหรือ Call To Action เช่น “เหลือเพียง 2 รายการเท่านั้น หมดแล้วหมดเลย” เพราะยิ่งมีน้อยจะยิ่งทำให้สินค้ามีมูลค่าเพิ่มขึ้น น่าซื้อมาครอบครองมากกว่าเดิม พ่อค้าแม่ขายอาจเพิ่มระดับความต้องการให้สูงขึ้นด้วยการสร้างโปรโมชัน อาทิ ส่วนลด 50% สำหรับลูกค้า 50 คนแรก หรือ Flash Deal ลดสูงสุด 90% ภายในชั่วโมงนี้เท่านั้น เพื่อเป็นการเร่งการตัดสินใจ ซึ่งทฤษฎีการเพิ่มยอดขายนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้ร้านค้าทำกำไรได้มากขึ้นภายในระยะเวลาสั้นๆ ครับ
ทั้ง 5 ทฤษฎีการเพิ่มยอดขายผ่านหลักจิตวิทยานี้ สามารถเป็นหนึ่งกลยุทธ์ที่ทำให้สร้างกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งนอกจากจะมีวิธีเพิ่มยอดขายให้ร้านขายของออนไลน์แล้วต้องมีตัวช่องทางในการขายที่ดี อย่างแพลตฟอร์ม LINE SHOPPING ที่มาพร้อมกับเครื่องมือช่วยบริหารร้านค้าแบบครบวงจรอย่าง “MyShop” ด้วยฟีเจอร์ต่างๆ
อย่างเช่น ระบบนับสต็อกสินค้าแบบ Real Time ตัดสินค้าตามเวลาจริง, ระบบ Flex Message ที่คอยตอบรับคำสั่งซื้อลูกค้าแบบอัตโนมัติ, มี Storefront สร้างเว็บขายของออนไลน์ฟรีเป็นของตัวเอง สามารถนำเว็บขายของฟรีนี้ไปแชร์ยังโซเชียลมีเดียต่างๆ เพิ่มช่องทางในการขาย สามารถติดตามสถานะออเดอร์ตั้งแต่ต้นจนจบ และรองรับการชำระเงินได้หลายช่องทาง ไม่ว่าจะโอนเงิน จ่ายผ่านบัตรเครดิต เก็บเงินปลายทาง หรือจ่ายผ่าน Rabbit LINE Pay โดยไม่ต้องสลับแอปฯ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าออนไลน์แบบไหนก็เริ่มทำธุรกิจและเพิ่มยอดขายบนแพลตฟอร์ม LINE SHOPPING ได้ง่ายๆ
เพียงมี LINE OA สามารถเปิดบัญชี MyShop ได้ฟรี ที่ lineshoppingseller.com