- 5 วิธีสร้างแบรนด์ให้ลูกค้าจดจำ และกลับมาซื้อซ้ำได้ง่าย ๆ

5 วิธีสร้างแบรนด์ให้ลูกค้าจดจำ และกลับมาซื้อซ้ำได้ง่าย ๆ
หากพูดถึงจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจนั้น สิ่งแรกที่ควรให้ความใส่ใจเป็นอย่างมากนั่นคือ การสร้างแบรนด์ เป็นสิ่งสำคัญต่อการทำธุรกิจ สามารถแสดงได้ถึงจุดยืน รวมถึงภาพลักษณ์และตัวตนของแบรนด์ ซึ่งในการสร้างแบรนด์ออนไลน์นั้น
จะต้องมีความน่าสนใจเพื่อทำให้ลูกค้าเกิดการจดจำ และต้องการที่จะซื้อสินค้าจากเรา ที่สำคัญยังสามารถนำไปสู่การเป็น Brand Loyalty ได้อีกด้วย วันนี้จะมาเสนอ 5 วิธีสร้างแบรนด์ให้ลูกค้าจดจำ และกลับมาซื้อซ้ำได้ง่าย ๆ ตามมาดูได้ที่นี่เลย
<H2>แบรนด์คืออะไร มีความสำคัญอย่างไรต่อสินค้า</H2>
แบรนด์ (Brand) คือภาพลักษณ์โดยรวมของธุรกิจ เป็นสิ่งที่ลูกค้าจดจำคุณได้ โดยไม่จำเป็นว่าต้องเป็นเพียงสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งสามารถอยู่ในรูปแบบของโลโก้หรือสัญลักษณ์ รูปแบบของสินค้า บรรจุภัณฑ์รวมถึงทุกสิ่งที่เป็นตัวตนของแบรนด์ เพื่อสร้างความประทับใจและเป็นจุดที่สามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้าเมื่อตัดสินใจซื้อสินค้าของคุณ
ดังนั้นการสร้างแบรนด์ออนไลน์ คือการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและน่าจดจำให้มากที่สุด เพื่อให้ลูกค้านึกถึง เชื่อมั่นในสินค้าของเรา และตัดสินใจกลับมาซื้อซ้ำอีกครั้งได้ง่าย ๆ โดยมีกระบวนการคิด วิเคราะห์จากตัวตนโดยรวม ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ไม่ยากเกินความสามารถแน่นอน
<H2>การวิเคราะห์ SWOT ยังใช้ได้เสมอ</H2>
สำหรับมือใหม่ร้านค้าออนไลน์ การวิเคราะห์ตัวแบรนด์ (SWOT Analysis) เป็นจุดเริ่มต้นแรกของการวางรากฐานแบรนด์ให้หนักแน่น มั่นคง และเป็นจุดเริ่มต้นของวิธีสร้างแบรนด์ให้ลูกค้าจดจำที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยเป็นการวิเคราะห์ตัวเอง มองหาจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคของการทำงาน ช่วยให้คุณได้รู้จักจุดที่จะพาธุรกิจไปสู่ความสำเร็จ และเห็นมุมมองที่เป็นโอกาสเพื่อลดปัจจัยด้านลบที่อาจมาขัดขวางการดำเนินธุรกิจของคุณได้ สามารถวิเคราะห์ตามใน 4 ขั้นตอนดังนี้
- Strengths จุดแข็ง/ข้อได้เปรียบ
คือการวิเคราะห์ข้อดีจากปัจจัยสภาพแวดล้อมภายใน สิ่งที่แบรนด์มีแล้วสร้างความได้เปรียบเหนือแบรนด์คู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็น สินค้า บริการ ทีมงาน รูปแบบการทำงานหรือความรู้เฉพาะด้านที่มี เป็นต้น ทั้งหมดล้วนเป็นสิ่งที่ส่งเสริมจากภายในองค์กรให้แบรนด์มีฐานที่แข็งแรงได้
- Weaknesses จุดอ่อน/ข้อเสียเปรียบ
คือการวิเคราะห์ข้อด้อยจากปัจจัยสภาพแวดล้อมภายใน เป็นสิ่งที่แบรนด์ยังต้องพยายามพัฒนามากขึ้น เป็นจุดที่เสียเปรียบในแบรนด์ซึ่งส่งผลกระทบต่อแบรนด์ได้ ไม่ว่าจะเป็น จุดด้อยของสินค้าเรา อุปสรรคในการทำงาน เครื่องมือโซเชียลมีเดียมีจำนวนไม่มากพอต่อช่องทางการขาย เป็นต้น โดยข้อมูลทั้งหมดนี้สามารถทำความเข้าใจและนำไปแก้ไขให้ดีขึ้นได้
- Opportunities โอกาส/ข้อได้เปรียบที่มี
คือการวิเคราะห์ข้อดีจากปัจจัยสภาพแวดล้อมภายนอก เป็นโอกาสที่คุณมีเหนือคู่แข่ง สามารถนำพาแบรนด์ไปได้ไกล มีโอกาสที่จะสร้างยอดขาย เพิ่มกำไรได้ โดยโอกาสเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องสร้างขึ้นมา แต่สามารถนำมาใช้พัฒนาแบรนด์ได้ เช่น ประเภทสินค้าของเรากำลังได้รับความนิยมในตลาด ช่องทางการขายของเรามีผู้ใช้เป็นจำนวนมาก ความสัมพันธ์ที่ดีในเชิงธุรกิจกับแบรนด์อื่น เป็นต้น
- Threats อุปสรรค/ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น
คือการวิเคราะห์ข้อด้อยจากปัจจัยสภาพแวดล้อมภายนอก เป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับโอกาส แนวโน้มของอุปสรรคที่ขัดขวางการดำเนินงานของแบรนด์ ทำให้ไม่สามารถบรรลุจุดประสงค์ที่ตั้งไว้ได้ ซึ่งอุปสรรคเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมไม่ให้เกิดได้ แต่หากเราวิเคราะห์และรู้ถึงอุปสรรคนั้นดีพอ จะช่วยให้เราวางแผนในการรับมือได้เป็นอย่างดี เช่น เศรษฐกิจที่ชะลอตัว มีจำนวนการซื้อขายลดลง การปิดตัวของช่องทางการขาย สินค้าขาดตลาด เป็นต้น
<H2>ออกแบบชื่อและโลโก้ที่ง่ายต่อการจดจำ</H2>
ชื่อแบรนด์และโลโก้ เป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงตัวตนของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี สิ่งสำคัญที่จะทำให้ลูกค้ารู้จักและจดจำแบรนด์เราได้นั้น เริ่มจากการตั้งชื่อแบรนด์ให้มีการสะกดด้วยตัวอักษรที่อ่านง่าย ไม่ซับซ้อนเพื่อให้ง่ายต่อการออกเสียงและจดจำ โดยชื่อแบรนด์ที่ดีจะสามารถนำไปทำเป็นโลโก้หรือสัญลักษณ์ของแบรนด์ได้ด้วย โดยสามารถจัดเรียงตัวอักษรของชื่อลงไปอยู่ในโลโก้ได้ ที่สำคัญแนะนำให้ออกแบบชื่อแบรนด์ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพื่อโอกาสข้างหน้าที่สามารถนำแบรนด์ไปได้ไกลถึงต่างประเทศ เป็นวิธีสร้างแบรนด์ให้ลูกค้าจดจำทั้งตลาดในไทยและระดับสากล
<H2>สร้าง Storytelling ให้แก่แบรนด์</H2>
เรื่องราวที่ดีนอกจากสร้างความรู้สึกดีแล้ว ยังสามารถสร้างแรงบันดาลใจที่ดีได้อีกด้วย การสร้างคอนเทนต์หรือเรื่องราวที่ดีต่อแบรนด์นั้น ไม่ใช่เป็นเพียงคอนเทนต์ที่นำเสนอแต่การขายเท่านั้น แต่ควรเป็นคอนเทนต์ที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับแบรนด์ ความเป็นตัวตน เบื้องหลังความสำเร็จของแบรนด์ โอกาสและอุปสรรคที่เคยเจอ เพื่อสื่อสารให้ลูกค้าเข้าใจในตัวตนของแบรนด์มากยิ่งขึ้น และสามารถนำไปเป็นคำแนะนำที่ดีให้แก่ตัวลูกค้าได้ด้วย
<H2>แสดงตัวตนและสร้างการรับรู้ของแบรนด์เสมอ</H2>
คอนเทนต์คือการสื่อสารระหว่างแบรนด์และลูกค้า หากเรานำเสนอสินค้าที่เป็นเพียงรูปภาพของสินค้าอย่างเดียว ไม่อาจสร้างการรับรู้ที่ดีได้ ดังนั้นรูปแบบของคอนเทนต์สำหรับการสร้างแบรนด์ออนไลน์ให้น่าจดจำนั้น คือคอนเทนต์ที่มีความหลากหลาย สามารถนำเสนอสินค้าไปพร้อมกับให้คำแนะนำการใช้ เช่น คอนเทนต์ How to ไอเดีย วิธีการแก้ปัญหา วิธีการใช้สินค้า เคล็ดลับต่าง ๆ ในรูปแบบของรูปภาพ Infographic วิดีโอ เป็นต้น เป็นการเพิ่มความน่าสนใจโดยมีตัวตนของแบรนด์ซ่อนอยู่ด้วย
<H2>มีช่องทางการขายที่หลากหลายและน่าเชื่อถือ</H2>
การมีช่องทางการขายมากกว่าหนึ่งทาง นอกจากจะช่วยเพิ่มปริมาณการขายแล้ว ยังมีส่วนช่วยให้ลูกค้าเห็นสินค้าเราได้มากขึ้น รวมถึงช่องทางเหล่านั้นยังช่วยเสริมความน่าเชื่อถือที่ดีให้แก่แบรนด์อีกด้วย เพราะในแต่ละช่องทางหรือแพลตฟอร์มนั้น ต้องผ่านการสมัครสมาชิกและมีการยืนยันตัวตนโดยการใช้ข้อมูลส่วนตัวของแบรนด์ ซึ่งลูกค้าก็รับรู้ได้ถึงข้อนี้ดี ดังนั้นการเพิ่มช่องทางการขายจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยสร้างความจดจำจากการพบเห็นแบรนด์ในหลาย ๆ ช่องทางได้ดี
จะเห็นได้การสร้างแบรนด์นั้น ไม่ได้ถูกจำกัดให้มีเพียงแค่หน้าร้านเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างแบรนด์ออนไลน์ให้เป็นที่จดจำได้อีกด้วย แต่จะดียิ่งกว่าถ้ามีหน้าร้านออนไลน์ที่สามารถเปิดได้ง่าย ๆ ผ่านแพลตฟอร์มชื่อดัง ซึ่งเป็นที่นิยมและมีความน่าเชื่อถืออย่าง LINE SHOPPING ที่สามารถสื่อสารส่งข้อความและคอนเทนต์ของสินค้าได้หลายรูปแบบ และส่งถึงลูกค้าได้โดยตรงอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย