LINE SHOPPING เผยเทรนด์ร้านค้าโซเชียลคอมเมิร์ซเติบโตขึ้นแบบฉุดไม่อยู่

Social Media หรือสื่อสังคมออนไลน์กลายเป็นหนึ่งปัจจัยหลักในการดำเนินชีวิตประจำวัน ทั้งการสนทนาสื่อสารและการซื้อ-ขายล้วนเกิดขึ้นผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั้งสิ้น ทำให้เกิดเป็น Social Commerce และมีร้านค้าโซเชียลที่ขายของออนไลน์เกิดขึ้นมามากมาย ผนวกกับประเทศไทยมีอัตราผู้ใช้งานโซเชียลมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ดังนั้น Social Commerce จึงกลายเป็นที่นิยม เพราะสามารถเข้าถึงลูกค้าจำนวนมากได้อย่างสะดวกกว่า

ด้วยเหตุดังกล่าว LINE ประเทศไทยจึงได้กำเนิดแพลตฟอร์มขายของออนไลน์สำหรับร้านค้าโซเชียลอย่าง LINE SHOPPING และเครื่องมือ MyShop ที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2563 ที่ได้ช่วยผู้ค้ารายย่อยเติบโตเพิ่มขึ้นในปัจจุบัน

LINE SHOPPING ผู้นำโซเชียลคอมเมิร์ซของไทย

ในปี พ.ศ. 2564 นี้ แพลตฟอร์ม LINE SHOPPING ยังคงครองตำแหน่งผู้นำ Social Commerce โดยในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน มีจำนวนร้านค้าโซเชียลมากถึง 294,400 ราย ซึ่งโดยรวมปีนี้มีจำนวนร้านขายของออนไลน์เติบโตขึ้นถึง 300% ในขณะที่ยอดขายสินค้ารวมทั้งแพลตฟอร์มคิดเป็นอัตราการเติบโต 370% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยมีมูลค่า GMV สูงถึง 5,300 ล้านบาทเลยทีเดียว

ในด้านของนักช้อปที่เข้ามาใช้งาน LINE SHOPPING ก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นเช่นกัน อันเนื่องมาจากสถานการณ์ล็อกดาวน์ก่อนหน้านี้เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ล่าสุดจึงมีจำนวนผู้ใช้งานมากกว่า 7 ล้านคนต่อเดือน (Monthly Active User) 

เทรนด์การชำระเงินแบบ Digital Payment

นอกจากกระแสการช้อปปิ้งบนโซเชียลแล้ว ผู้บริโภคในยุคนี้ยังนิยมการชำระเงินแบบ Digital Payment ที่สะดวกและรวดเร็วกว่า อีกทั้งยังให้ประสบการณ์การซื้อ-ขายแบบไร้รอยต่อ (Seamless) จ่ายเงินได้โดยไม่ต้องสลับไปยังแอปฯ อื่น ตัวอย่างเช่นบน LINE SHOPPING พบว่าร้านค้าที่รับชำระผ่านบัตรเครดิต/เดบิต หรือ Rabbit LINE Pay มียอดขายสูงขึ้น 40-45% โดยประมาณ เห็นได้ว่า Digital Payment กลายเป็นวิธีการชำระค่าสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคทั่วไปคุ้นเคยเป็นอย่างดี ผู้ประกอบการที่กำลังวางแผนเริ่มทำธุรกิจออนไลน์ จึงต้องพิจารณาถึงข้อนี้ด้วยนั่นเอง

ประเภทร้านค้ายอดนิยมบน LINE SHOPPING

แม้จะมีจำนวนร้านค้าโซเชียลที่เกิดขึ้นมามากมายบน LINE SHOPPING อย่างไรก็ตาม สินค้าแต่ละแบบนั้นได้รับความนิยมมากน้อยไม่เท่ากัน ซึ่งในปี พ.ศ. 2564 นี้จำนวนร้านค้าโซเชียลเปิดใหม่สูงสุด 5 อันดับแรก คือ

1. อุปกรณ์กีฬา

2. สินค้าสัตว์เลี้ยง

3. สุขภาพและความงาม

4. สินค้าแม่และเด็ก

5. สินค้าแฟชัน

เหตุผลที่ทำให้สินค้าประเภทเหล่านี้ได้รับความนิยมสูง เกิดจากสถานการณ์ล็อกดาวน์ที่ผู้คนต้องกักตัวอยู่ภายในบ้าน จึงเริ่มหากิจกรรมต่างๆ และหันมาดูแลสุขภาพตัวเองกันมากขึ้น ทั้งออกกำลังกายและดูแลสุขภาพด้วยผลิตภัณฑ์ต่างๆ อีกทั้งยังเป็นช่วงที่คุณพ่อคุณแม่มีเวลาดูแลลูกน้อยมากขึ้น ผนวกกับกระแส Pet Parent ที่เกิดขึ้น จึงทำให้สินค้าทั้ง 5 ประเภทนั้นเป็นที่นิยมในช่วงที่ผ่านมานั่นเอง

สนับสนุนผู้ค้าผ่าน LINE POINTS

นอกจากพ่อค้าแม่ขายและผู้ประกอบการรายย่อย (SME) จะสามารถใช้งาน LINE SHOPPING โดยไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียม (Gross Profit) ยังมีการสนับสนุนร้านค้าผ่าน Loyalty Program อย่าง LINE POINTS โดยลูกค้าสามารถสะสมแต้มจากการซื้อสินค้า เพื่อนำไปแลกซื้อสินค้าหรือใช้เป็นส่วนลดแทนเงินสด ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการส่วนลดหรือโปรโมชันในการตัดสินใจซื้อ อีกทั้งช่วยกระตุ้นการขายให้กับร้านค้า ดึงดูดให้ลูกค้าเก่ากลับมาซื้อใหม่อีกด้วย

MyShop ช่วยจัดการร้านค้าอย่างทันสมัย

อีกหนึ่งเทรนด์ร้านค้าโซเชียลที่ไม่ควรมองข้ามคือมีเครื่องมือทันสมัยเข้ามาช่วยบริหารร้านค้าและธุรกิจ ซึ่งบางธุรกิจอาจมีระบบ CRM เป็นของตัวเอง ด้วยผู้ค้าบน LINE SHOPPING นั้นสามารถใช้งาน MyShop เครื่องมือจัดการร้านค้าออนไลน์สุดทันสมัยได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยมีฟีเจอร์ต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น 

• ระบบนับสต็อกสินค้าแบบ Real Time ตัดสินค้าตามออเดอร์ ตามเวลาจริง 
• ระบบ Flex Message ที่คอยตอบรับคำสั่งซื้อลูกค้าแบบอัตโนมัติ โดยที่ไม่ต้องคอยสังเกตการณ์ตลอดทั้งวัน
• มี Storefront สร้างเว็บขายของออนไลน์ฟรีเป็นของตัวเอง สามารถนำเว็บขายของฟรีนี้ไปแชร์ยังโซเชียลมีเดียต่างๆ เพิ่มโอกาสในการขายและเข้าถึงลูกค้าได้มากกว่าเดิม
• สามารถรองรับการชำระเงินได้หลายช่องทาง ไม่ว่าจะโอนเงิน จ่ายผ่านบัตรเครดิต เก็บเงินปลายทาง หรือจ่ายผ่าน Rabbit LINE Pay โดยไม่ต้องสลับแอปฯ 

ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าออนไลน์แบบไหนก็เริ่มทำธุรกิจและเพิ่มยอดขายบนแพลตฟอร์ม LINE SHOPPING ได้ง่ายๆ หากเจ้าของธุรกิจท่านใดที่สนใจในแพลตฟอร์มนี้และใช้งาน LINE Official Account อยู่แล้ว สามารถเปิดบัญชี MyShop ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายที่ lineshoppingseller.com